วันที่ 3 สิงหาคม 2563 นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย นำเจ้าหน้าที่ลงสำรวจความเสียหายจากเหตุอุทกภัยพื้นที่ อ.เวียงเป่าเป้า จ.เชียงราย ซึ่งนอกจากจะทำให้ถนนหมายเลข 118 ซึ่งเส้นทางสายหลักเชื่อมเชียงราย-เชียงใหม่ถูกตัดขาดหลายจุดแล้ว ยังมีน้ำท่วมด้านหน้าที่ว่าการ อ.เวียงเป่าเป้า ระยะทางประมาณ 100 เมตร จนรถสัญจรผ่านไปมาไม่ได้นั้น ล่าสุดเย็นนี้แม้รถขนาดใหญ่สัญจรไปมาได้แล้วแต่ยังคงต้องใช้ความระมัดระวัง
กระนั้น พบว่าปริมาณฝนที่ตกลงมาได้ลดลงแต่ระดับน้ำยังคงอยู่นิ่งและรอการระบาย ทำให้ทางจังหวัดได้ตั้งศูนย์อำนวยการตามจุดต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนเรื่องที่พัก อาหาร น้ำดื่ม และเก็บข้าวของไปไว้ในที่ปลอดภัยจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ
นายประจญกล่าวว่า อุทกภัยครั้งนี้เกิดจากเหตุฝนตกต่อเนื่องช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีการสะสมของน้ำบนภูเขา กระทั่งช่วงบ่ายก็ไหลทะลักลงจากเขามาอย่างรวดเร็วและมีปริมาณมาก อย่างไรก็ตาม ช่วงเย็นวันนี้ฝนเริ่มลดลงและตนได้รับการรายงานจากอุตุนิยมวิทยาภาคเหนือแล้ว ทิศทางของพายุเริ่มเปลี่ยนไป ทำให้มีฝนตกน้อยลง แต่ยังคงมีน้ำที่สะสมลงมารวมกันมากอยู่ จึงคาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มค่ำนี้น้ำจะมีการระบายลงไปเรื่อยๆ
ส่วนทางหลวง 118 ที่ขาดตรงจุด กม.ที่ 61 และ 58 ใกล้ด่านตรวจแม่โถ ต.แม่เจดีย์ใหม่นั้นเดิมมีถนนทางเบี่ยงอยู่แต่น้ำได้เข้าเอ่อล้นทำให้ยังไม่สามารถใช้สัญจรได้ แต่จากการประเมินสถานการณ์คาดว่าถ้าไม่มีฝนตกซ้ำในวันพรุ่งนี้ (4 ส.ค.) ระดับน้ำน่าจะลดลง และผู้รับผิดชอบจะได้เข้าไปเร่งซ่อมแซมให้สามารถกลับมาใช้งานได้ในช่วงบ่าย
นอกจากนี้ ทราบว่ากรมทางหลวงได้ส่งสะพานเบลีย์จาก จ.พิจิตรมาอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม โดยจะใช้พาดกับเสาตอม่อที่สร้างขึ้นใหม่เพื่อใช้เป็นทางสำรองหากน้ำป่ายังเจิ่งนองอยู่ด้วย
ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.เชียงราย แจ้งว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมในวันนี้มีพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายใน อ.เวียงเป่าเป้า รวมจำนวน 7 ตำบล 93 หมู่บ้าน 10,372 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 33,150 ไร่
ได้แก่ ต.เวียงกาหลง หมู่ที่ 1-15 จำนวน 3,200 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรประมาณ 19,000 ไร่, ต.แม่เจดีย์ หมู่ที่ 1-16 จำนวน 872 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหายประมาณ 5,150 ไร่, ต.แม่เจดีย์ใหม่ หมู่ที่ 1-14 จำนวน 500 ครัวเรือน, ต.ป่างิ้ว หมู่ที่ 1-16 จำนวน 3,500 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหายประมาณ 5,000 ไร่, ต.บ้านโป่ง หมู่ที่ 1-7 จำนวน 400 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหายประมาณ 500 ไร่, ต.เวียง หมู่ที่ 1-12 จำนวน 1,500 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหายประมาณ 1,000 ไร่ และ ต.สันสลี หมู่ที่ 1-13 จำนวน 400 ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตรเสียหายประมาณ 2,000 ไร่
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์