เรียนรู้วิถีชุมชน บ้านม้งกิ่วกาญจน์ บำบัดกายใจท่ามกลางขุนเขา
หากต้องการพักกายพักใจจากความยุ่งเหยิงวุ่นวาย ที่ที่มีความเงียบสงบ สามารถที่จะปล่อยใจปล่อยกายไปกับธรรมชาติ เติมพลังให้กับให้กับกาย-ใจพร้อมกลับไปสู้กับความวุ่นวายอีกครั้ง สามารถที่จะมาได้ที่ บ้างม้งกิ่วกาญจน์
หลังออกมาจากสนามบินเชียงราย ลัดเลาะมาตามถนนเข้ามาถึงหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมที่เรียบง่าย จนทำให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับท่านที่ต้องการหนีความวุ่นวายแล้วมาปลีกวิเวก ปล่อยชีวิตให้ชิล ๆ โดยที่นี่จะมีส่วนร่วมกันกับ ลันเจีย ลอดจ์ บ้านพักกึ่งรีสอร์ตกึ่งโฮมสเตย์ ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติขุนเขา ตั้งอยู่ที่บ้านกิ่วกาญจน์
ที่หมู่บ้านแห่งนี้มี 2 ชนเผ่าอาศัยอยู่ด้วยกัน ชนเผ่าม้งประมาณ 90% ที่เหลือจะเป็นชาวล่าหู่ การที่จะเข้าชมวิถีชีวิตของชาวบ้านกิ่วกาญจน์นั้นเราต้องมีไกด์นำทาง เพราะไกด์จะช่วยอธิบายถึงวัฒนธรรมประเพณี ร่วมทั้งเป็นล่ามในการสื่อสาร เพราะชาวบ้านจะไม่ค่อยพูดภาษากลางกัน
เมื่อเราเข้ามาในเขตชุมชนแล้ว จะรู้ได้อย่างไรว่า บ้านหลังไหนคือบ้านของชาวม้ง หรือ บ้านของชาวลาหู่ มีวิธีสังเกตอยู่ง่าย ๆ คือ บ้านของชาวม้ง ตัวบ้านจะสร้างติดกับพื้นดินที่ทุบแน่น วัสดุส่วนใหญ่จะใช้ไม้เนื้ออ่อน ผนังทำจากไม้ไผ่ มุงหลังคาด้วยหญ้าคา ไม่มีหน้าต่าง ส่วนบ้านของชาวลาหู่ ส่วนใหญ่จะสร้างยกพื้นมีใต้ถุนสูง หลังคามุงด้วยหญ้าคา
เรามาเริ่มด้วยการเรียนรู้ถึงวิถีชีวิตของชาวเผ่าลาหู่ จากคำบอกเล่าของไกด์ชาวเผ่าลาหู่นั้นยังมีหมอผีโดยสือทอดทางสายเลือด หากเมื่อเกิดการเจ็บไข้จะพากันมาหาหมอผีเพื่อทำพิธีรักษา โดยถ้าหมอผีตรวจสอบดูแล้วว่าอาการป่วยนั้นเกิดจากกระทำของภูตผีก็จะทำการรักษาหรือไล่ผีตามความเชื่อ แต่หากไม่ใช่ก็จะแนะนำให้ไปหาหมอแผนปัจจุบัน
แต่ก่อนที่หมู่บ้านนี้ส่วนใหญ่ที่หมู่บ้านแห่งนี้จะทำไร่ทำนา จึงทำให้มีการตัดไม้ทำลายป่ากันมาก หลังจากที่ชุมชนได้นำการท่องเที่ยวเข้ามา ทำให้เกิดการอนุรักษ์ดูแลป่าไม้มากขึ้นการตัดไม้ก็ลดลง และส่งเสริมให้ผู้หญิงมีอาชีพมากขึ้น เช่น ทอผ้า ปักผ้า ทำผ้าบาติก และงานบริการต่าง ๆ
ที่หมู่บ้านแห่งนี้ยังมีกิจกรรมให้ร่วมทำหลายอย่างอีกด้วย เช่น การทำผ้าบาติก ที่นี่จะมีการทำเวิร์คช็อป การเขียนเทียนทำผ้าบาติก การเขียนเทียน นี้เป็นศิลปะและภูมิปัญญาที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น จะมีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์
นอกจากจะได้รู้วิถีการดำเนินชีวิตต่าง ๆ ของชาวเขาทั้งสองเผ่าแล้ว ยังเหมือนได้มาบำบัดกาย-ใจ ช่วยให้กลับมาสดชื่นที่ได้จากธรรมชาติท่ามกลางขุนเขา ซึ่งเป็นอีกที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาด
การเดินทางไม่ยากและไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงรายเท่าไหร่
รถส่วนตัว เริ่มจากอำเภอเชียงของใช้ถนนสายเชียงของ-เชียงแสน เดินทางไปประมาณ 32 กม. จะถึงบ้านม้งกิ่วกาจน์
รถโดยสารประจำทาง จากรุงเทพฯ สามารถขึ้นรถทัวร์สายกรุ่งเทพฯ- เชียงของ จากนั้นเหมารถสองแถวต่อเข้าหมู้บ้าน จากตัวอำเภอเมืองเชียงรายให้นั่งรถบัสสายเชียงราย-เชียงของ จากนั้นเหมารถสองแถวต่อเข้าหมู้บ้าน