นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ภายในปี 2564 นี้คาดว่า จะสามารถประกาศประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่ จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กม. วงเงินรวม 85,345 ล้านบาท และสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. วงเงิน 66,848.33 ล้านบาท โดยล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมาได้อนุมัติจัดจ้างที่ปรึกษา สำรวจรายละเอียดอสังหาริมทรัพย์เพื่อเวนคืน โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของแล้ว

รายงานข่าวจาก ร.ฟ.ท.แจ้งว่า โครงการรถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของนั้น คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติโครงการและหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนของโครงการเพื่อสร้างทางรถไฟ สะพานข้ามทางรถไฟในเส้นทาง 4 จังหวัด คือ แพร่ ลำปาง พะเยา และเชียงราย เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2561 โดยรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ผ่านการอนุมัติเรียบร้อยแล้ว

เบื้องต้นค่าก่อสร้างงานโยธาอยู่ที่ 72,921 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว ระยะทาง 104 กม.วงเงิน 26,704 ล้านบาท สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย ระยะทาง 135 กม. วงเงิน 28,735 ล้านบาท สัญญาที่ 3 ช่วง เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 84 กม. วงเงิน 17,482 ล้านบาท ค่าเวนคืนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ 10,660 ล้านบาท และค่าจ้างที่ปรึกษา 1,764 ล้านบาท โดยรัฐรับภาระค่าดำเนินการทั้งโครงการ โดยสำนักงบประมาณจัดสรรงบรายปีหรือกระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินกู้ค้ำประกันตามความเหมาะสม มีแผนเปิดเดินรถปี 2568

ส่วนสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนมนั้น ครม.อนุมัติเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2562 มีวงเงินค่าก่อสร้างงานโยธาประมาณ 5 หมื่นล้านบาท แบ่งงานออกเป็น 2 สัญญา มีค่าเวนคืน 10,255.33 ล้านบาท (พื้นที่ 7,100 แปลง) แผนกำหนดเปิดเดินรถในปี 2568 ขณะที่รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ได้รับการอนุมัติแล้วเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2563

แหล่งข่าวจาก ร.ฟ.ท.แจ้งว่า ร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างร่างทีโออาร์ทั้ง 2 โครงการ คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดประมูลได้ในเดือน ต.ค. และได้ตัวผู้รับจ้างภายในปี 2563 นี้ โดยผู้รับจ้างในแต่ละสัญญาจะต้องรับผิดชอบก่อสร้างงานโยธาและติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณด้วย ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการก่อสร้าง ต่างจากรูปแบบการประมูลรถไฟทางคู่ระยะแรก จำนวน 5 เส้นทาง ที่มี 9 สัญญา แต่แยกประมูลงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ ซึ่งพบว่างานมีความล่าช้ามากกว่าการรวมงานโยธาและงานอาณัติสัญญาณไว้ด้วยกัน

อย่างไรก็ตาม รถไฟทางคู่ 2 เส้นทางนี้เป็นทางสายใหม่ที่จะต้องมีการเวนคืนพื้นที่ และส่งมอบให้ผู้รับจ้างก่อสร้าง ดังนั้นตัวแปรสำคัญที่จะส่งผลต่อการก่อสร้างได้ตามแผนและกรอบเวลาที่กำหนดไว้เดิม หรือคือการส่งมอบพื้นที่ ดังนั้น ในทางคู่ขนาน ร.ฟ.ท.จะเร่งเวนคืนพื้นที่ให้เร็วที่สุด เพื่อส่งมอบและเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2564 โดยจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 36 เดือน ส่วนช่วงที่มีอุโมงค์จะใช้เวลาประมาณ 48 เดือน

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์

Author Image

Sunny

Happy Work Happy Life