ไหว้พระแล้วแวะดูผ้าทอที่วัดพระธาตุผาเงา

ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน คนไทยก็มักจะไม่พลาดต้องแวะไปวัดทุกครั้ง ด้วยความเชื่อที่ว่าการไปวัดของจังหวัดนั้นๆ เป็นเหมือนการฝากเนื้อฝากตัวและขอให้คุณพระคุณเจ้าของจังหวัดนั้นคุ้มครองในระหว่างการเดินทาง ในวันนี้เราจะพาทุกกท่านมาเที่ยวกันที่ “วัดพระธาตุผาเงา” ที่อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงรายกัน

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่อย่างวัดพระธาตุผางาม บริเวณรอบๆ เป็นภูเขาเนินเล็กๆ ทอดยอดกันไปตามฝั่งแม่น้ำโขง อยู่ฝั่งตรงข้ามกับประเทศ หากลองมาเดินตอนเย็นๆ จะเจอวิวที่สวยงามอย่างมาก

‘วัดพระธาตุผางาม’ หนึ่งในวัดที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองกับชาวเชียงแสน จังหวัดเชียงรายมาเป็นเวลานาน มีประวัติที่เล่าต่อๆ กันมาที่ไม่ธรรมดา ความศักดิ์สิทธิ์ที่โด่งดังทำให้มีผู้คนเข้ามาแวะเวียนกราบไหว้ตลอดเวลา

ชื่อวัดมาจากชื่อของพระธาตุผาเงา ที่ตั้งอยู่บนหินก้อนใหญ่และเงาของก้อนผา ก้อนหินขนาดใหญ่ที่มีรูปทรงคล้ายเจดีย์ เวลาพระอาทิตย์ส่องผ่านจะทำให้ก้อนหินมีเงาขนาดใหญ่ ชาวบ้านจึงเรียกว่า พระธาตุผาเงา ซึ่งเดิมทีมีชื่อว่าวัดสบคำ

ภายในวัดมีพระธาตุทั้งหมด 3 องค์ ได้แก่ พระธาตุผาเงา พระธาตุหลักที่ตั้งอยู่บนยอดหินผา ต่อมาคือพระธาตุจอมจัน ปัจจุบันเหลือเพียงเศษซากขององค์เจดีย์ที่มีขนาดสูงประมาณ 5 เมตร ขึ้นไปบนยอดเขาอีกหน่อยจะเป็นพระธาตุเจ็ดยอด ตอนนี้เหลือแต่ซากฐานสูง 5 เมตร ต่อมาได้สร้างพระบรมธาตุพุทธนิมิตเจดีย์ขนาดใหญ่ครอบองค์พระธาตุไว้ แต่ยังคงมองเห็นซากพระธาตุเจ็ดยอดอยู่

ภายในพระบรมธาตุพุทธนิมิตเจดีย์ มีภาพเขียนฝาผนังพระราชประวัติพระนางจามเทวีและการค้นพบพระพุทธรูปองค์สำพคัญที่มีอายุมากถึง 700 – 1,300 ปี โดยพบว่าใต้ตอไม้นั้นมีอิฐโบราณก่อเรียงไว้ เมื่อยกอิฐออกก็พบหน้าหาก และพอยกหน้ากากออกก็พบพระพุทธรูป โดยทุกคนที่ร่วมกันขุดได้ตั้งชื่อว่า ‘หลวงพ่อผาเงา’ และเปลี่ยนชื่อวัดใหม่จากวัดสบคำเป็นวันพระธาตุผาเงา

บริเวณรอบๆ วัดมีลักษณะคล้ายป้อมปราการ สามารถมองลงไปเห็นวิวทิวทัศน์ของประเทศลาวและประเทศพม่าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างกว้างขวาง

ก่อนกลับก็แวะมาชมความสวยงามของผ้าทอชาวล้านนาที่ พิพิธภัณฑ์ผ้าทอล้านนาเชียงแสน เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มแม่บ้านที่ได้ไปดูงานทอผ้าจากสถานที่ต่างๆ และได้นำมาสร้างเป็นรูปแบบของชาวล้านนาเอง โดยสร้างทั้งเอกลักษณ์ในการทอผ้าและลวดลายแบบชาวล้านนา

ต่อมาพระครูไพศาลพัฒนาภิรัตและคณะ ได้เล็งเห็นความสำคัญจึงมีการส่งเสริมการทอผ้าลายพื้นเมืองชาวเชียงแสนขึ้นมาเพื่อเป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านเอาไว้ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างรายได้ที่นอกเหนือจากการทำไร่ทำสวน และยังถือเป็นการเก็บมรดกทางวัฒนธรรมไว้ให้คนรุ่นหลังได้สืบทอดอีกด้วย

เอกลักษณ์ของผ้าทอลายเชียงแสนก็คือการทอผ้าด้วยมือ ใช้เส้นด้ายผ้าฝ้ายและไหมประดิษฐ์ในการทำลวดลาย ซึ่งมีออกมาทั้งหมด 5 ลวดลาย ได้แก่ ลายขอพันเสา ลายเสือย่อย ลายดอกมะลิ ลายกาแล และลายไข่ปลา ซึ่งได้จดทะเบียนลิขสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว