วิทยาศาสตร์การกีฬา จบมาทำอะไร?
วิทยาศาสตร์การกีฬา (Sports Science) คืออะไร
วิธีการในการพัฒนาศักยภาพ และความสามารถทางกีฬาด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ให้นักกีฬา ให้มีความพร้อมทั้งสมรรถภาพทางร่างกายและทักษะที่สมบูรณ์ เตรียมตัวให้พร้อมทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ กับมืออาชีพอีกด้วย สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาได้แบ่งสาขาย่อย ออกมาได้ดังต่อไปนี้
- กายวิภาคศาสตร์ คือการเรียนเกี่ยวกับโครงสร้างร่างกายของมนุษย์ ได้แก่ กล้ามเนื้อ กระดูก เอ็น ข้อต่อ หลอดเลือด ปอด เซลล์ประสาท เป็นต้น
- สรีรวิทยา คือการเรียนเกี่ยวกับระบบการทำงานหรือหน้าที่ต่าง ๆ ของร่างกาย เพื่อจะปรับระบบการฝึกฝนให้เหมาะกับประเภทของกีฬาและนักกีฬา เช่น ความสามารถในการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ เป็นต้น
- ชีวกลศาสตร์ คือการเรียนเกี่ยวกับการทำงานเกี่ยวกับการใช้แรง การเคลื่อนไหวหรือปฏิบัติทักษะอย่างกล้ามเนื้อ กระดูก เอ็น และข้อต่อ
- ทักษะและการฝึกซ้อมกีฬา คือการให้ความรู้เกี่ยวกับการฝึกฝนร่างกาย ตารางการฝึกซ้อมที่เหมาะสมกับประเภทกีฬาและนักกีฬา โดยคำนวณจากสมรรถภาพทางร่างกายของนักกีฬาคนนั้น
- โภชนาการทางการกีฬา คือการให้ความรู้เกี่ยวกับคุณค่าทางอาหารแต่ละชนิด และการเลือกรับประทานอาหารอย่างถูกต้อง
- จิตวิทยาการกีฬา คือการเรียนรู้กระบวนการทางความคิดการควบคุมทักษะการเคลื่อนไหวและการกีฬารวมถึงภาวะในการตัดสินใจในแต่ละสถานการณ์
- เวชศาสตร์การกีฬา คือความรู้เกี่ยวกับการป้องกัน การบำบัด และฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กับนักกีฬาทั้งในภาวะปกติและในการฝึกซ้อม เพื่อให้สามารถใช้ร่างกายได้อย่างสมบูรณ์
- เทคโนโลยีทางการกีฬา คือการให้ความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์กีฬา การประดิษฐ์การใช้เครื่องมือ อุปกรณ์สนับสนุนตลอดจนการส่งเสริมและแก้ไขปัญหา
ประโยชน์ของวิทยาศาสตร์การกีฬา
วิทยาศาสตร์การกีฬาแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการออกกำลังกายและโทษของการออกกำลังกาย เป็นการให้ความรู้ในการเล่นกีฬาที่เหมาะกับแต่ละคน เพื่อป้องกันการบาดเจ็บหรือการเล่นกีฬาที่ผิดวิธี อีกทั้งยังเป็นการฝึกฝนร่างกายเพื่อให้เกิดความเคยชินกับการเล่นกีฬาและการปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องขระที่ได้รับบาดเจ็บ ในการเล่นกีฬาแต่ละครั้ง เป็นธรรมดาที่จะต้องได้รับการบาดเจ็บ แต่บางทีก็เป็นเรื่องยากที่จะรู้ได้ว่าควรทำการปฐมพยาบาลหรือรักษาอย่างไรให้หายดี
วิทยาศาสตร์การกีฬา อยากเรียนต้องเตรียมตัว
สำหรับการเรียนวิทยาศาสตร์การกีฬาใช้เวลาเรียนทั้งหมด 4 ปีและจะได้วุฒิวิทยาศาสตร์บัณฑิต (วท.บ.)
คุณสมบัติ
- สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เทียบเท่าแผนการเรียนสายวิทยาศาสตร์-คริตศาสตร์ หรือผู้ที่มีผลงานทางด้านกีฬา (แล้วแต่ทางมหาวิทยาลัยพิจารณา)
- มีความสนใจและใส่ใจในสุขภาพร่างกายของตนเอง
- เป็นนักปฏิบัติ มีความอดทน และรอบคอบ
- เป็นคนที่รักการเล่นกีฬา
สถาบันเปิดสอนหลักสูตร วิทยาศาสตร์การกีฬา
1) มหาวิทยาลัยมหาสารคาม - คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา
2) มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ - คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา
3) มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม วิทยาศาสตร์ - สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา
4) มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ - คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา
5) มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ - คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา
6) มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร - วิทยาลัยการฝึกหัดครู สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา
7) มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี - คณะครุศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา
8) มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี - คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา
9) มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด - คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา
10) มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย - คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย
11) มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย - คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา
12) มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ - เทคโนโลยีการเกษตร สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา
13) มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร - คณะครุศาสตร์ สาขาพลศึกษาและวิทยาศาสตร์การกีฬา
14) มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา - คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ
15) มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ - คณะครุศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา
16) มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี - คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา
17) มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ - คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา
18) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย - คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย
19) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย - คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา
20) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน - คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย
21) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน - คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา
22 มหาวิทยาลัยขอนแก่น - คณะวิทยาศาสตร์ประยุกต์และวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย
23) มหาวิทยาลัยขอนแก่น - คณะวิทยาศาสตร์ประยุกต์และวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา
24) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ - บัณฑิตวิทยาลัย สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา
25) มหาวิทยาลัยทักษิณ - คณะวิทยาการสุขภาพและการกีฬา สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา
26) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี - วิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา
27) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนยรังสิต - คณะสหเวชศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย
28) มหาวิทยาลัยบูรพา - คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา สาขาการจัดการกีฬา
29) มหาวิทยาลัยบูรพา - คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา สาขาการออกกำลังกายและกีฬาศึกษา
30) มหาวิทยาลัยบูรพา - คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา สาขาวิทยาศาสตร์การออกกำลังกายและการกีฬา
31) มหาวิทยาลัยบูรพา - คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา สาขาสื่อสารมวลชนทางกีฬา
32) มหาวิทยาลัยมหิดล - วิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย
33) มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง - สำนักวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ
34) มหาวิทยาลัยรามคำแหง - วิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา
35) มหาวิทยาลัยปทุมธานี - คณะสาธารณสุขศาสตร์และสิ่งแวดล้อม สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย
36) วิทยาลัยนครราชสีมา - คณะสาธารณสุขศาสตร์และเทคโนโลยีสุขภาพ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย
วิทยาศาสตร์การกีฬา จบมาทำงานอะไรได้บ้าง?
- โค้ชฝึกสอนกีฬา มีความรู้ทางด้านกีฬานั้นๆ รวมถึงเรื่องกายวิภาคศาสตร์และจิตวิทยาการกีฬา สามารถกำหนดรูปแบบการฝึกซ้อมที่เหมาะสมกับนักกีฬา
- นักวิทยาศาสตร์การกีฬา ทำงานตามทีมกีฬาต่าวๆ ดูแลเกี่ยวกับอาหาร เทคนิคกีฬา จิตวิทยา และดูแลร่างกายของนักกีฬา
- นักโภชนาการกีฬา ดูแลเรื่องอาหารให้กับนักกีฬา
- นักเวชศาสตร์การกีฬา ช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของนักกีฬาให้กลับมาพร้อมใช้งานอย่างสมบูรณ์
- เทรนเนอร์ฟิตเนส มีความสามารถทางกีฬาและมีความรู้เกี่ยวกับกีฬาที่ถูกต้อง บุคลิกต้องดี น่าเชื่อถือ
- นักจิตวิทยากีฬา
- นักข่าวกีฬา
- อาจารย์มหาวิทยาลัย
- นักกีฬา
สรุป
หากใครกำลังมองหาสายการเรียนที่ทำให้เราได้ออกกำลังกายไปด้วยและยังสามารถนำความรู้ที่เรียนมาไปใช้ประกอบอาชีพได้ในอนาคต สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาถือเป็นสายการเรียนที่ทำให้ผู้เรียนแข็งแรงทั้งกายและใจ นอกจากนี้ยังสามารถนำความรู้ที่เรียนมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย
ข้อมูลบางส่วน : CU Sports Science, Campus Star