นายนิโรจน์ โง้วเจริญสุข นายด่านศุลกากรเชียงแสน จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ด่านฯ เชียงแสนถือเป็นด่านศุลกากรทางบกโดยมีลำน้ำโขงเป็นเขตแดน แต่ก็มีพื้นที่รับผิดชอบอีก 5 อำเภอในเชียงราย ได้แก่ อ.เชียงแสน ดอยหลวง เวียงเชียงรุ้ง พญาเม็งราย และเวียงชัย โดยมีด่านพรมแดน 4 จุด จุดผ่านแดนถาวร 2 จุด และจุดผ่อนปรนจำนวน 1 จุด
ในปี 2562 ที่ผ่านมาด่านศุลกากรเชียงแสนมีมูลค่าการค้าชายแดนรวม 11,624.6 ล้านบาท สินค้าส่วนใหญ่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง โคและกระบือมีชีวิต ชิ้นส่วนไก่แช่แข็งที่มีน้ำหนักว่า 26,677 ตัน มูลค่ากว่า 2,261.9 ล้านบาท ส่วนการนำเข้ามีมูลค่ารวม 583.8 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นกระเทียมสด เมล็ดดอกทานตะวัน ฯลฯ ขณะที่ในปีงบประมาณ 2563 ตั้งแต่เดือน ต.ค.-เม.ย.นี้ มีการส่งออกแล้วมูลค่า 4,682.40 ล้านบาท และนำเข้ามูลค่า 245 ล้านบาท
ล่าสุดกรมศุลกากรได้จัดงบประมาณ 203,382,218 บาท ดำเนินการก่อสร้างอาคารที่ทำการด่านศุลกากรแห่งใหม่ ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน แห่งที่ 2 ติดแม่น้ำโขง ชายแดนไทย-สปป.ลาว ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จนแล้วเสร็จและเปิดใช้งานรองรับการขยายตัวของการค้าชายแดนและเพิ่มศักยภาพในการขนส่งสินค้าข้ามแดน รวมทั้งส่งเสริมเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษระยะที่ 2 และการรองรับการขนส่งสินค้าทางเรือตามลำน้ำโขงอีกด้วย
และเนื่องจากการขนส่งทางลำน้ำยังคงมีความสำคัญเพราะใช้ต้นทุนต่ำกว่าด้านอื่นๆ โดยทางเชียงแสนคือการเชื่อมกับท่าเรือกวนเหล่ยของจีนซึ่งต่อเนื่องไปถึงเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน กรมศุลกากรจึงพยายามพัฒนาเพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเข้าและส่งออก ทั้งด้านพิธีการ การชำระเงินระบบต่างๆ ที่ทันสมัย เช่น อี-เพย์เมนคฺ ระบบอนุมัติอนุญาตต่างๆ ที่ผ่านเนชันแนลซิงเกิลวินโดว์หรือบริการจุดเดียวเสร็จ ฯลฯ ซึ่งผู้นำเข้าและส่งออกสามารถขออนุญาตผ่านระบบอินเทอร์เน็ตโดยไม่ต้องไปด้วยตัวเองได้ จึงถือว่าการบริการพื้นฐานค่อนข้างสมบูรณ์แบบ
นอกจากนี้ ภาครัฐและเอกชนอยู่ระหว่างผลักดันให้ทางการจีนเปิดท่าเรือกวนเหล่ย ซึ่งยังคงปิดตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 หลังจากที่ผ่านมาได้ขนส่งสินค้าไปยังเมืองท่าอื่นๆ ในประเทศเพื่อนบ้านแทน
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์