สุดยอดเด็กอายุน้อยร้อยล้าน สร้างเนื้อสร้างตัวได้ด้วยตัวเอง

ตอนนี้เรากำลังอยู่ในยุคที่สังคมเริ่มเปิดกว้างมากยิ่งขึ้น ทำให้เด็กสมัยใหม่มีความกล้าคิดกล้าทำมากกว่าเดิม โดยผู้ที่จะชี้แนะเด็กว่าสิ่งนั้นดีหรือไม่ดีก็คือผู้ปกครอง ในยุคนี้ถือเป็นยุคที่รวบรวมเด็กที่มีพรสวรรค์กันอย่างล้นเหลือ 

อย่างไรก็ตาม แม้เด็กทุกคนจะมีความสามารถที่โดดเด่นแค่ไหน ก็ต้องพยายามต่อสู้กับสายตาและความคิดของคนอื่น รวมถึงการต่อสู้กับตัวเองไม่ให้ยอมแพ้ง่าย ๆ วันนี้เราได้รวบรวมเด็กตัวอย่างประจำปี 2020 ไว้เป็นกำลังใจให้ทุกคนได้สู้กันต่อไป

น้องแพรพาเพลิน

จุดเริ่มต้นของ “น้องแพร” ได้เริ่มมาจากการที่เธอมีความสนใจเกี่ยวกับการแต่งหน้ามาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ โดยเริ่มจากการใช้เครื่องสำอางที่เหลือของคุณแม่มาแต่งเติมที่ใบหน้า เมื่อฝีมือเริ่มดีขึ้น คุณแม่ก็เริ่มอัดคลิปวิดีโอแล้วนำลงช่อง Youtube กระแสตอบรับที่ได้นั้นมีทั้งดีและไม่ดี 

บ้างก็ว่าน้องเป็นคนมีความสามาถรถ น่าจะไปได้ไกล ในขณะที่บางคนก็พูดว่าน้องยังอายุน้อย ไม่สมควรให้ทำอะไรอย่างนี้ น้องในอายุ 5 ขวบนั้นถือว่ายังเด็กและยากมากที่จะต้องรับกับกระแสด้านลบของโลกโซเชียล

กระทั่ง 10 ขวบ น้องแพรได้เปลี่ยนจากความคิดแง่ลบของคนในสังคมมาเป็นแรงผลักดันในการเรียนแต่งหน้าอย่างจริงจัง จากเด็กหน้ายูทูปที่ยังกรีดตาไม่เป็นได้ก้าวเข้ามาสู่การเป็นเมคอัพอาร์ทติสงานแฟชั่นโชว์ระดับโลกอย่างลอนดอนแฟชั่นวีค

ดีเจวิว

ไป! ไป! ไปปป! คำฮิตติดปากน้องวิว ดีเจหน้าใหม่อายุน้อยที่สุดในประเทศไทย กับการเป็นดีเจในวัยเพียง 10 ขวบ ด้วยคำคมสุดฮิต ความกวน และความฮา คาแรกเตอร์สุดทะเล้นที่ทำให้น้องโดดเด่นมากกว่าเดิม 

ปัจจุบันมีผู้ติดตามแฟนเพจ Dj_VieW มากกว่า 28,000 คนและมีผู้ติดตามใน Youtube มากกว่า 105,000 คน ล่าสุดในวันเด็กที่ผ่านมา ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี ได้ยกย่องและเชิดชูเกียรติให้น้องวิวเป็นเยาวชนต้นแบบด้านสังคม ในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ พ.ศ.2563 อีกด้วย

น้องณัชชา

หากใครเคยดูรายการ ณัชชาลูกสาวพี่บ๊อบ ทางช่อง 3 อาจจะได้เห็นเด็กสาวแก้มป่องกับวลีเด็ดของเธอ “ดูปากณัชชานะคะ” กับการสอนภาษาอังกฤษแบบสำเนียงสายฝอเป๊ะๆ ต่อมาได้ก็ได้มีรายการ May I help you? ให้หนูช่วยนะ กับรายการที่นอกจากจะให้ประโยชน์และความรู้แล้วยังเป็นรายการช่วยเหลือเด็ก ๆ 

โดยบนเวทีจะเป็นเวทีที่ให้เด็ก ๆ ได้มาแสดงความสามารถ ด้วยความสามารถด้านภาษาอังกฤษที่โดดเด่นของน้องณัชชาทำให้ผู้จัดงาน IT ระดับชาติ AUASEAN 2017 เกิดความสนใจและทำให้น้องได้ขึ้นโลว์สกิลบนเวทีท่ามกลางผู้ชมคนไทยและต่างชาติ แม้ว่าจะเกิดอาการประหม่าก่อนขึ้นเวทีเล็กน้อย แต่กระแสการตอบรับก็ถือว่าเป็นไปได้ดี

น้องจินนี่และน้องลูกจรรย์

ไอเดียสุดเจ๋งที่ไม่เหมือนใคร การเปิดร้านไอศกรีมกระถางต้นไม้ “ร้าน Orangery Cafe” กับน้องจินนี่และน้องจรรย์ สองพี่น้องที่อายุเพียง 14 ปีและ 16 ปีเท่านั้น มีดีกรีการันตีด้านอาหารจากเวทีจูเนียร์มาสเตอร์เชฟ

 

ร้านตั้งอยู่บริเวณมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา กับการแต่งร้านสไตล์อังกฤษเล็ก ๆ อบอุ่น ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ ลูกค้าส่วนใหญ่คือนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ทำให้มีการออกแบบสีสันให้มีความสดใสและสบายตา เหมาะสำหรับมานั่งพักผ่อนหรือนั่งทำงาน สร้างยอดขายได้มากกว่า 300,000 – 500,000 บาทต่อเดือน

ม๊าเดี่ยว

เจ้าแม่แฟชั่นประจำอีสาน สู่การเป็นแฟชั่นดีไซน์เนอร์งานระดับโลกกับ ‘ม๊าเดี่ยว’ กับความฝันที่อยากจะเป็นนางแบบ ความโดดเด่นของผลงานคือการนำวัสดุอุปกรณ์ใกล้ตัวต่าง ๆ มาประดิษฐ์เป็นชุดและท่าโพสสุดมั่นใจ 

นอกจากนี้ยังมีความแปลกและแหวกแนวจากแฟชั่นธรรมดาทั่วไป พร้อมยังอนุรักษ์และโชว์เอกลักษณ์ความเป็นไทยได้อย่างสง่างาม หลังจากได้โพสต์รูปลงไปในเฟสบุ๊คและเกิดกระแสดังขึ้นมา 

ม๊าเดี่ยวก็ได้รับโอกาสในการเป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการรายการดังระดับโลกอย่าง Asia’s Next Top Model ในการออกแบบชุดให้กับนางแบบในซีซั่น 4 จำนวน 9 ชุด หลังจากสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยก็ได้รับการติดต่อให้สร้างแบรนด์เสื้อผ้าของแบรนด์ KOxMA และได้รับการติดต่อให้ถ่ายแบบของนิตยสาร Time Magazine อีกด้วย

ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น

ไม่มีใครที่จะไม่รู้จักกับ “ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” กับเพลงยอดฮิตของเธอ ‘เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว’ เพลงนี้ฮอตฮิตจนมียอดวิวมากกว่า 33 ล้านยอดวิว ก่อนที่เธอจะมาถึงจุดนี้ เธอเคยอยู่ในจุดที่ไม่มีข้าวกินมาก่อน แถมต้องดรอปเรียน โดนตามทวงหนี้สิน จนต้องระหกไปช่วยพี่สาว และครอบครัวขายของตามตลาดนัด

จนกระทั่งมาถึงจุดเปลี่ยนในชีวิตเมื่อพี่สาวของเธอ ซึ่งรู้จักกันในนาม เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ได้แต่งเนื้อร้องและทำนอง ‘เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว’ ให้เธอร้องจนกลายเป็นฮิตติดอันดับอย่างรวดเร็ว จนทำให้มีรายการต่างๆ เริ่มติดต่อเธอเข้ามาตั้งแต่ตอนนั้น จนกระทั่งตอนนี้เธอ และพี่สาวสามารถปลดหนี้หมด รวมถึงซื้อรถซื้อบ้านและเปิดค่ายเพลงเป็นของตัวเองได้สำเร็จ

เนสตี้ สไปร์ทซี่

จากไอดอลหัวเกรียนวัยประถม สู่รันเวย์แฟชั่น เจ้าของวลี “หรูหราหมาเห่า” ไม่มีใครไม่รู้จักน้องเนสตี้กับไอดอลยอดกตัญญู จุดเริ่มต้นมาจากการที่น้องชอบดูลูกพี่ลูกน้องของตัวเองแต่งหน้าก่อนออกไปทำงาน ก่อนที่จะเริ่มฝึกแต่งหน้าเองมาเรื่อย ๆ และเริ่มเอาคลิป ตัวเองลงในโซเชียล

กับเอกลักษณ์การแต่งหน้าสไตล์หรูหราหมาเห่า หลังจากมีแชร์คลิปออกไป น้องเนสตี้ก็ได้ถูกเชิญไปออกรายการโทรทัศน์มากมาย นอกจากนี้ยังได้โอกาสสำคัญในการเป็นนางแบบในงาน Nongchat Meet and Greet เงินที่น้องหามาได้ทั้งหมดก็มอบให้ครอบครัวมากกว่าครึ่ง นอกจากนี้ยังรับงานรีวิวและไลฟ์สดสินค้าเครื่องสำอาง โดยรายได้ตกอยู่ที่เดือนละ 100,000 บาท

น้องมินนี่

“น้องมินนี่” ดีไซน์เนอร์อายุน้อยที่สุดในประเทศไทยด้วยอายุเพียง 9 ขวบกับพรสวรรค์ด้านการออกแบบเสื้อผ้าที่โดดเด่นมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ น้องมินนี่เป็นคนที่ชื่นชอบการแต่งตัวมาก แม้ว่าบางคนจะบอกว่ามันเยอะไปก็ตาม 

โดยน้องได้บอกว่า “หลายคนอาจจะอยากเป็นซินเดอเรลล่า แต่หนูอยากเป็นแม่เลี้ยงของซินเดอเรลล่ามากกว่า เพราะแต่งตัวเยอะดี” หลังจากนนั้นน้องก็เริ่มทำการออกแบบเสื้อผ้าในแบบของตัวเองโดยสร้างแบรนด์เป็นของตัวเองชื่อว่า ‘Purisa Glitzy’

สรุป

จากตัวอย่างข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นของเด็กเก่งในยุคปัจจุบัน ที่สามารถสร้างเงินทำรายได้ให้กับตัวเองด้วยอายุเพียงน้อยนิด การเดินทางของพวกเขาทุกคนล้วนมีอุปสรรค แต่การมีความตั้งใจ อดทน มุมานะฝึกฝน และกำลังใจที่ดีจากครอบครัวก็สามารถทำให้แต่ละคนเดินมาถึงจุดสูงสุดของชีวิตได้ การพบสิ่งที่รักแล้วลงมือทำนั่นแหละคือทางสู่ความสำเร็จ ไม่ได้บอกให้เชื่อ แต่น้องๆ กลุ่มนี้พวกเขาเป็นตัวอย่างให้เห็นทำได้จริง ๆ 

Author Image

Admin