ในยุคที่ข้าวยากหมากแพงเช่นนี้ ไม่ว่าใครก็ต้องอยากทำอาชีพเสริมหรือหารายได้เพิ่มเติมจากรายได้หลักที่รับเป็นประจำ แต่สิ่งที่ยากที่สุดก็คือ “การลงทุน” เพราะค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนมากมาย ทำให้ไม่มีเงินเก็บมากพอ

วันนี้เราจะมาแนะนำการลงทุนทำธุรกิจหรืออาชีพเสริมด้วยต้นทุนเพียง 10,000 บาทเท่านั้น หลายคนอาจคิดว่าเงินแค่นี้ไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ที่จริงแล้ว เราสามารถต่อยอดจากสิ่งที่เรามีให้ได้ผลกำไรมากกว่าเดิมได้ หากใครสนใจก็มาดูกันเลยว่ามีธุรกิจอะไรบ้างที่สามารถลงทุนได้แม้มีเงินเพียง 10,000 บาท

 

  1. อาหารตามสั่งรักษ์โลก

ตอนนี้โลกกำลังอยู่ในกระแสรักษ์โลก เวลาซื้อของก็งดการให้ถุงพลาสติก การใช้ของ Reuse เพื่อเป็นการลดขยะที่เกิดขึ้นมาจากมนุษย์และย่อยสลายไม่ได้ คนไทยเราเองก็ตามกระแสได้ดีเช่นกัน กับแนวคิด “Throwback” หรือการหยิบเอาภูมิปัญญาไทยในอดีตกลับมาประยุกต์ใช้ในปัจจุบันมากขึ้น

ร้านอาหารตามสั่งเหมือนเป็นเพียงแค่ร้านอาหารธรรมดาทั่วไปไม่เกี่ยวข้องกับการรักษ์โลก แต่ที่จริงแล้ว ค่อนข้างมีบทบาทมาก เพราะเวลาที่เราสั่งอาหารกลับบ้าน ทางร้านมักจะใช้กล่องโฟมหรือถุงพลาสติกในการใส่อาหารกลับบ้านให้เรา หากลองเปลี่ยนมาใช้ภูมิปัญญาไทยที่ใช้กันมาตั้งแต่โบราณอย่าง ‘ใบตอง’ จะเป็นอย่างไร

หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นชินกับการใช้ใบตองในการใส่อาหารแทนกล่องโฟมหรือถุงพลาสติก แต่ด้วยความแปลกใหม่ที่ไม่ได้ปรากฏขึ้นมาสังคมมานาน ทำให้กลายเป็นกระแสและมีผู้คนพากันนำมาใบตองมาใช้เป็นพาชนะในการใส่อาหารแทน เป็นอีกหนึ่งวิธีในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและยังเป็นการเพิ่มมูลค้าให้กับสินค้าของเราด้วย

 

  1. กล้วยปิ้งไส้แตก

อีกหนึ่งอาชีพที่น่าสนใจและยังเป็นสินค้าอยู่คู่กับคนไทยมานาน นั่นก็คือ “กล้วยปิ้ง” อาหารที่ดูธรรมดาที่สามารถหาซื้อกินได้ทั่วไป แต่หากเรานำสินค้าธรรมดาๆ มาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้มีดีมากกว่านั้นก็จะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของเรา จนกลายมาเป็น “กล้วยปิ้งไส้แตก”

เมนูดั้งเดิมอย่างกล้วยปิ้ง ที่มีการเพิ่มไส้เข้ามา เช่น ไส้ฝอยทอง ไส้มะพร้าว ไส้เผือกกวน มันญี่ปุ่นกวน ไส้ถั่วแดงกวน ไส้ ข้าวโพด เป็นต้น ซึ่งเป็นไอเดียของ “คุณชัยยศ ศรีศุภรณ์วัฒนา” ครั้งหนึ่งเคยทำธุรกิจเปิดร้านขายวัสดุก่อสร้างที่ภาคใต้ แต่เจอปัญหาเศรษฐกิจทำให้ต้องปิดตัวลงและย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ จนกระทั่งนึกถึงกล้วยปิ้งยัดไส้ เมนูที่คุณแม่เคยทำขายเมื่อ 30-40 ปีที่แล้ว ปัจจุบันยังไม่เห็นมีใครทำขาย จึงได้หยิบเอาเมนูเก่าแก่ของคุณแม่มาสร้างเป็นธุรกิจใหม่

 

  1. ธุรกิจการเพาะเห็ด

ปัจจุบันคนได้หันมานิยมในการเพาะเห็ดมากยิ่งขึ้น เนื่องจากต้นทุนในการลงทุนไม่แพงมากเท่าไหร่ เพียงแค่ลงทุนซื้อพันธุ์เห็ดมาและรดน้ำดูแลทุกวันๆ เท่านั้น ทำให้ผู้คนหันมาประกอบอาชีพในการเพาะปลูกเห็ดกันมากขึ้นทุกวัน

เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการเพาะเห็ดแบบใหม่เกิดขึ้น ที่เรียกว่า “การเพาะเห็ดสดด้วย ‘Growing kit’ หรือการเพาะเห็ดขายในกล่องกระดาษ” นั่นเอง โดยมีแนวคิดเริ่มมาจากการ “คุณธญธร ธรรมาชีพเจริญ” หรือคุณตุ่ย ได้ดูโทรทัศน์รายการหนึ่งที่สอนวิธีในการเพาะปลูกเห็ด แม่ของคุณตุ่ยก็จึงได้ลองปลูกเห็ดและศึกษาค้นหาวิธีต่างๆ รวมถึงการลงสถานที่จริงเพื่อศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง ซึ่งกว่าจะปลูกเพาะเห็ดได้นั้นต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างรวมกัน ไม่ว่าจะเป็น อุณหภูมิ ความชื้น การดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด

ข้อเสียของการเพาะเห็นในกล่องกระดาษก็คือกระดาษจะเปื่อยเมื่อโดนน้ำ ดังนั้นจึงต้องใช้กระดาษคราฟท์แพ็ค ที่มีคุณสมบัติพิเศษด้านความเหนียวและทนทาน เมื่อโดนน้ำก็จะไม่เปื่อยและแห้งกลับคืนสภาพเดิม ส่วนระยะเวลาในการเพาะปลูกเห็ดอยู่ที่ 10-15 วันและจะออกดอกได้ถึง 4-5 เดือน ราคาที่ขายอยู่ที่กล่องละ 150 บาท

 

  1. ขายของเล่นย้อนยุค

แม้ว่าในปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีเข้ามาอย่างมากมาย แต่กลิ่นอายความเก่าแก่โบราณเองก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน ด้วยความคลาสสิคของสิ่งๆ นั้น ที่นอกจากจะสวยงามแล้ว ยังมีมูลค่าทางจิตใจอีกด้วย ของเก่าที่คนนิยมสะสมมีทั้งพวกแก้วแหวน เงินทอง นาฬิกา หรือของใหญ่อย่างรถยนต์เองก็จะยังเป็นที่ต้องการของเหล่านักสะสมเช่นกัน

เชื่อว่าตอนเด็กๆ ทุกคนจะเคยได้รับของเล่นจากที่บ้านและยังคงเก็บไว้อยู่กับตัวเองจนถึงตอนนี้ บางทีของเล่นที่คุณเก็บสะสมอยู่ อาจมีมูลค่ามากจนคุณคาดไม่ถึงก็ได้ เหมือนเจ้าของธุรกิจขายของเล่นร้าน“หมัด 56 สโตร์” อย่าง “คุณอนุพงศ์ มูฮำหมัด หรือ คุณหมัด” ผู้ที่ชอบและหลงใหลในของสะสมเป็นอย่างมากตั้งแต่สมัยเรียนและได้เปิดกิจการขายของเล่นเก่ามาเป็นเวลาเนิ่นนาน

ธุรกิจขายของเล่นเก่าหรือของสะสมเก่านั้นมีมูลค่าค่อนข้างสูงมากเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นของหายากและไม่มีขายแล้วในปัจจุบัน และไม่เพียงแค่ลูกค้าคนไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงลูกค้าต่างชาติอีกด้วย หากมีสกิลในการสื่อสารภาษาอังกฤษหรือภาษาที่สาม จะยิ่งทำให้มีช่องทางในการขายของได้มากยิ่งขึ้น

 

  1. ขายเสื้อผ้ามือสอง

ธุรกิจทำเงินยอดฮิตที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับคนในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก ผู้คนเริ่มใช้จ่ายเงินกันอย่างรัดกุมมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เสื้อผ้ามือสองเป็นที่ต้องการของตลาดมากกว่าเดิม และธุรกิจเสื้อผ้ามือสองยังทำกำไรอย่างมากมายให้กับผู้ประกอบการอีกด้วย

ในการเลือกสรรเสื้อผ้ามือสองมาขาย อย่างแรกที่ต้องให้ความสำคัญก็คือคุณภาพของเสื้อผ้า ว่ามีรอยเปื้อนหรือตำหนิที่ไหนบ้าง เนื้อผ้ายังคงดีอยู่ไหม สภาพสมบูรณ์หรือเปล่า เนื่องจากเสื้อผ้าทั้งหมดผ่านการใช้งานมาก่อนแล้วจึงอาจทำให้เกิดรอยตำหนิได้

อย่างไรก็ตาม เสื้อผ้ามือสองยังคงให้กำไรที่ดีต่อผู้ประกอบการเสมอ เช่น เราซื้อเสื้อผ้ามือสองมา 1 แพ็ค ราคา 1,500 บาท ซึ่งมีทั้งหมด 50 ตัว ตกชิ้นละ 30 บาท เมื่อเรานำไปขายต่อ สามารถตั้งราคาด้วยตัวเองได้ตั้งแต่ 50-100 บาทเลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสินค้าและแบรนด์ของสินค้าตัวนั้น

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ 5 ธุรกิจที่แอดมินได้นำเสนอไป จะเห็นได้ว่าธุรกิจทั้งหมดนั้นมีทั้งธุรกิจแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใครและเป็นธุรกิจเก่าแก่ที่ใครๆ ก็สามารถสร้างรายได้เสริมได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง หากใครสนใจธุรกิจแบบไหน สามารถลองค้นหาเพิ่มเติม เพื่อสร้างรายได้ให้ตัวเองมากกว่าเดิมและยังสามารถทำเป็นกิจกรรมยามว่างที่ได้เงินมาอีกด้วยค่ะ

Author Image

Sunny

Happy Work Happy Life