บ่อยครั้งที่เรามักจะรู้สึกว่า เหนื่อยเหลือเกิน ท้อแท้เหลือเกิน จนไม่มีแรงอยากจะทำอะไรอีกต่อไป ลองมาหาวิธีเพิ่มแรงใจให้กับการทำงานดูกันไหมคะ? ใครที่กำลังหมดไฟหรือไม่มีกำลังใจในการทำงาน ต้องมาทางนี้เลย เศร้าๆ ซึมๆ นานๆ มันไม่ดีต่อสุขภาพจิต ลองเปลี่ยนแนวความคิดเกี่ยวกับการทำงาน อาจช่วยให้เรารู้สึกดีและมีแรงที่จะเผชิญหน้ากับอุปสรรคในการทำงานมากขึ้นก็ได้นะคะ
1.ตั้งเป้าหมายในการทำงาน
การที่จะเกิดความสำเร็จได้นั้น เราก็ต้องเริ่มจากการวางแผนและการกำหนดเป้าหมายในการทำงานให้ชัดเจนก่อน และเมื่อคุณกำหนดได้แล้ว คุณก็ต้องตั้งมั่น ทำมันให้ได้ สามารถทำได้จริงและกำหนดระยะเวลาไว้อย่างแน่นอน โดยสามารถบันทึกได้ทั้งในโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ สมุด หรืออะไรก็แล้วแต่ คุณจะไปถึงฝั่งฝันได้ คุณจะต้องรู้ว่าชีวิตนี้คุณต้องการอะไร และเป้าหมายที่วางไว้จะช่วยพาไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร
2.อย่าหยุดพัฒนาตนเอง
คนที่ล้มเหลว ไม่ใช่คนที่ลงมือทำแล้วล้มเหลว แต่เป็นคนที่หลวงระเริง คิดว่าตัวเองดีเด่นกว่าผู้อื่น แล้วไม่ยอมพัฒนาตัวเองไปจากจุดเดิม กับคนที่คิดว่าตัวเองไม่มีดีอะไรสักอย่าง ทำไปก็เสียเวลา ไม่ยอมลงมือทำอะไรเลย คนประเภทพวกนี้ เรียกว่า “คนล้มเหลว” ค่ะ เราไม่ควรหยุดคิดที่จะเพิ่มศักยภาพในการทำงาน หรือหาแนวทางใหม่ๆ มา เพื่อทำให้งานมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น อย่าลืมว่าโลกหมุนรอบตัวเองอยู่ตลอดเวลา มีผู้คนมากมายที่กำลังฝึกฝนตัวเอง หากคุณมีความคิดเพียงเท่านี้ บอกได้เลยว่าคุณจะไม่มีวันได้สัมผัสกับคำว่าประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง
3.มองหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ
ในการทำงานบางครั้ง เราก็สมองตันกันไปบ้างกับการทำงาน คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก ทำให้งานไม่มีความก้าวหน้าขึ้นแต่อย่างไร ต่อให้พยายามคิดมากเท่าไหร่ ก็เป็นกลายเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ลองเอาเวลาที่มัวแต่กุมหัวคิด ไปลองหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ดูสิคะ ออกไปเจอสิ่งใหม่ๆ ทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำ เผื่อจะช่วยเป็นไอเดียในการทำงานได้บ้าง
4.จัดตารางเวลาชีวิต
ทุกคนต่างรู้ดีว่า เวลานั้นสั้นกว่าที่เราคิด แอดมินไม่ได้หมายความว่า ให้ทุกท่านเอาเวลานั้นไปเที่ยวเล่นจนสนุกสนานเกินลิมิต หรือ ให้จมอยู่กับกองงานตลอดชีวิตนะคะ แต่เราควรจัดเวลา หรือ Work-Life Balance ให้เหมาะสม เช่น เวลาทำงาน ก็ควรทำงานให้เต็มที่ อย่าเอาแต่เที่ยวเตร็ดเตร่ไปมา สามารถทำงานเกินเวลาได้ แต่ไม่ใช่ว่าทำบ่อยๆ จนตัวเองพักผ่อนไม่เพียงพอหรือไม่มีเวลาทำอย่างอื่น ส่วนเวลาที่พักผ่อน ก็ควรอยู่ในขอบเขต หาเวลาพักผ่อนบ้าง ไม่ทำงานหนักเกินไป แต่ก็ไม่ใช่เที่ยวเล่นจนลืมเวลา
5.คลายเครียดบ้างก็ดีนะ
บางครั้ง เวลาที่คุณทำงานหนักๆ ติดต่อกันมาเป็นเวลานาน อาจทำให้คุณเกิดความเครียดสะสม จนรู้สึกว่าไม่อยากทำงานอีกต่อไป เพราะมัวแต่ทำงาน ไม่มีเวลาทำอย่างอื่นเลย ดังนั้น การคลายเครียดนี่แหละ เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว เวลาทำงานผ่านไปนานๆ บางทีคุณอาจจะคลายเครียดด้วยการไปคุยกับเพื่อนร่วมแผนก หาอะไรทาน หรือไปออกกำลังกายหลังเลิกงานก็ได้
แต่หากใครทำงานนาน เครียดสะสม อยากพักในระยะยาว ก็อาจจะใช้วันหยุดของบริษัท ไปหาความสุขใส่ตัวเองซ่ะบ้าง ออกไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวหรือคนรัก หรือบางคนอาจจะอยากไปพักผ่อนสงบๆ คนเดียวก็ได้ การพักผ่อนไม่ใช่เรื่องผิด แค่อย่าเพลินจนทำให้กระทบการทำงานและชีวิตส่วนตัวอื่นๆ นะคะ
สรุป
การกระตุ้นแรงใจในการทำงาน ถือเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการทำงานมาก หากคนเราไม่มีใจคิดที่อยากจะทำงานต่อไป ก็อาจส่งผลกระทบทั้งกับงานและตัวของผู้ทำงานเอง เวลาทำงานก็จะเกิดข้อผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง เพราะไม่ได้รู้สึกว่าอยากทุ่มเทให้กับการทำงานอีกต่อไป และยังส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้ทำงาน นั่นก็คือ เราจะรู้สึกแย่กับตัวเอง รู้สึกต่องาน เพื่อนร่วมงาน และบริษัท ทำให้ความรู้สึกเราดาวน์ง่ายกว่าปกติ
หากคุณกำลังหมดไฟในการทำงานหรือท้อแท้กับการทำงาน ก็ลองมาอ่านบทความดีๆ ที่จะช่วยให้มีกำลังใจในการทำงานต่อไปของเรานะคะ แม้ว่าเราจะทุ่มเทให้กับการทำงานมากเท่าไหร่ แต่ก็อย่าลืมหันกลับมามองตัวเอง สนใจตัวเอง และดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ