เมื่อพูดถึงการออกกำลังกาย แน่นอนว่านี่เป็นหนึ่งในคำถามที่มีคนสงสัยเป็นจำนวนมาก นั่นก็คือเวลาไหนเหมาะสำหรับการออกกำลังกายมากที่สุด ควรจะเป็นตอนเช้า ตอนบ่าย หรือตอนเย็นดี
บางคนก็บอกว่าตอนเช้า เพราะจะทำให้ร่างกายตื่นตัวและสดชื่นมากกว่าเดิม ตอนบ่ายเป็นช่วงที่กำลังตื่นตัวน่าออกกำลังกาย หรือบางคนที่เห็นว่าตอนเย็นดีกว่า ก็เพราะว่ามีพลังงานในการออกกำลังกายที่มากกว่า
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเราจะออกกำลังกายเวลาไหนก็มีประโยชน์ด้วยกันทั้งหมด เพียงแต่ว่าอาจจะมีข้อแตกต่างเล็กน้อยสำหรับการออกกำลังกายตอนเช้า ตอนบ่าย และตอนเย็น โดยมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน สำหรับคนรักสุขภาพและรักการออกกำลังกายแล้ว ไม่ควรพลาดกับคอนเทนต์นี้ของเราค่ะ
การออกกำลังกายตอนเช้า
สำหรับคนที่ชอบออกกำลังกายตอนเช้าหรือหลังตื่นนอน เป็นช่วงที่ร่างกายกำลังฟื้นฟูจากการนอนพักผ่อนในตอนกลางคืนและสามารถทำเป็นกิจวัตรประจำวันได้ด้วย
- ข้อดี
- ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร้าหลังจากออกกำลังกาย ช่วยทำให้ร่างกายสดชื่นและรู้สึกตื่นตัว พร้อมที่จะออกไปทำงานหรือเริ่มต้นวันใหม่ในตอนเช้า
- เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก เพราะการออกกำลังกายตอนเช้าช่วยในเรื่องของการกระตุ้นระบบการเผาผลาญได้เป็นอย่างดีตลอดทั้งวัน
- สามารถทำเป็นกิจวัตรประจำวันได้ง่ายๆ เพราะในตอนเช้ายังไม่มีสิ่งใดเข้ามารบกวนระหว่างการออกกำลังกายได้
- ข้อเสีย
- สำหรับใครที่นอนพักผ่อนไม่เพียง จะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียมากกว่าเดิม การออกกำลังกายจะไม่มีประสิทธิภาพ เพราะไม่มีแรง
- อุณหภูมิของร่ายกายในตอนเช้าค่อนข้างต่ำ ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดน้อย ส่งผลให้ร่างกายออกกำลังกายไม่ได้เต็มที่
- ตอนเช้ายังเป็นคงเป็นเวลาแห่งการทำงานของตับ เมื่อเราตื่นมาออกกำลังกายจะทำให้ตับทำงานหนักเกินไป เพราะต้องดึงสารอาหารที่เก็บสะสมไว้มาเป็นพลังงานในการออกกำลังกาย ทำให้ตับทำงานแบบไม่ได้หยุดพักเลย
ข้อแนะนำ สำหรับใครที่ออกกำลังกายในตอนเช้าแล้วไม่รู้สึกสดชื่น อ่อนเพลีย เป็นเพราะว่าร่างกายขาดน้ำตาล ควรรับประทานอาหารเช้าก่อนออกกำลังกาย 2-3 ชั่วโมง แต่หากใครไม่มีเวลามากพอในการรับประทานอาหารเช้า สามารถรับประทานแคร็กเกอร์รสจืด 1-2 แผ่นเป็นการรองท้องได้และควรวอร์มร่างกาย 10-15 นาทีก่อนการออกกำลังกาย
การออกกำลังกายตอนบ่าย
ตอนบ่ายเป็นช่วงเวลากลางๆ ระหว่างตอนเช้าและตอนเย็น เป็นช่วงที่เรากำลังมีพลังงานมากที่สุด เพราะยังไม่ได้เหนื่อยจากการทำกิจกรรมตอนเช้ามากเกินไป ร่างกายสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่
- ข้อดี
- ช่วยทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร้าหลังจากการทำกิจกรรมในช่วงเช้าและไม่ทำให้เกิดอาการง่วงนอนในตอนบ่าย
- ช่วยลดความอยากอาหารในตอนกลางวันและตอนเย็น
- ร่างกายมีระดับฮอร์โมนและการไหลเวียนที่สูง แต่ยังอยู่ในระดับปกติ ทำให้สามารถออกกำลังกายได้มาก
- ข้อเสีย
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ อีกทั้งการทำงานของระบบทางเดินหายใจยังลดลงไปถึง 15-20% ในช่วงบ่าย
- ไม่สามารถออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ เพราะอาจมีกิจกรรมเข้ามาแทรกระหว่างการออกกำลังกาย
ข้อแนะนำ ด้วยความที่ตอนบ่ายเป็นช่วงเวลาระหว่างตอนเช้าและตอนเย็น ดังนั้นเราจึงควรควบคุมอาหารไม่ให้กินเยอะมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการจุกเสียดระหว่างออกกำลังกาย อีกทั้งยังควรจัดสรรเวลาในการออกกำลังกายตอนนี้ให้ดี พยายามหาวันที่ไม่มีกิจกรรมแทรก และสามารถออกกำลังกายได้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง
การออกกำลังกายตอนเย็น
แน่นอนว่าเวลายอดฮิตที่คนส่วนใหญ่ชอบออกกำลังกายกันก็คือตอนเย็นค่ะ โดยเฉพาะคนทำงาน เพราะเราจะสามารถมีเวลากับการออกกำลังกายได้เต็มที่หลังเลิกงาน อีกทั้งยังไม่ต้องรีบเร่งอะไรมากมายอีกด้วย
ข้อดี
- เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายของเรามีพลังงานมากที่สุด เพราะเราได้รับประทานอาหารในมื้อเช้าและมื้อกลางวันเป็นที่เรียบร้อย ทำให้มีพลังงานเก็บสะสมภายในร่างกาย
- ช่วยผ่อนคลายความเครียดและความเหนื่อยล้าจากการทำงาน เพราะการออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นร่างกายให้มีความสดชื่นมากยิ่งขึ้น
- ลดความอยากอาหารในตอนเย็น เพราะได้รับประทานอาหารมา 2 มื้อแล้วอย่างเต็มที่
ข้อเสีย - อย่างที่บอกไปในข้างต้น การออกกำลังกายในตอนเย็นจะช่วยให้สดชื่นขึ้น แต่อีกนัยหนึ่งก็เป็นการกระตุ้นทำให้ร่างกายตื่นตัวและหลับยากมากขึ้นกว่าเดิม อาจทำให้นาฬิกาในการใช้ชีวิตพังได้
- ร่างกายจะเผาผลาญไขมันสะสมได้ช้า เพราะพลังงานทั้งหมดถูกใช้ในการเผาผลาญไขมันตอนออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายใช้เวลานานขึ้นในการเผาผลาญให้ถึงระดับของไขมันสะสม
ข้อแนะนำ ไม่ควรรับประทานอาหารก่อนออกกำลังกายหรือถ้าหิว ให้รับประทานผลไม้เบาๆ แทน และควรดื่มน้ำอุณหภูมิห้อง เพื่อปรับอุณหภูมิร่างกายให้อยู่ในระดับปกติ นอกจากนี้ควรเว้นระยะเวลาในการนอน ควรนอนหลังจากออกกำลังกายเสร็จ 4-6 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้ปรับสภาพและนอนหลับสนิทในยามค่ำคืน
ตกลงเวลาไหนเหมาะกับการออกกำลังกายมากที่สุด
การออกกำลังกายเป็นการทำให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นไม่ว่าจะออกเวลาไหนก็ไม่สำคัญ ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของเรามากกว่า บางคนชอบตื่นเช้า การออกกำลังกายตอนเช้าจึงเหมาะที่สุด หรือบางคนที่ต้องทำงานเป็นกะ เวลาในการไปออกกำลังกายไม่แน่นอน
อาจไปออกกำลังกายตอนเช้า ตอนบ่าย หรือตอนเย็นก็ได้ ต้องเลือกเวลาในการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับเราและเราคิดว่าไม่ทำให้เรารู้สึกอ่อนเพลียหรือเป็นภาระจนมากเกินไป แต่เราไม่ควรที่จะออกกำลังกายหนักเกินไปหรืองดเว้นไปเลย ควรออกกำลังกายอย่างพอดี เหมาะสมกับสมรรถภาพทางกายของเรา
