ในวันที่ 29 กันยายน 2563 จังหวัดท่าขี้เหล็ก เมียนมา ได้มีหนังสือแจ้งถึงคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ระดับท้องถิ่น หรือทีบีซี ฝ่ายไทย ถึงแนวทางปฏิบัติการส่งสินค้าข้ามแดนแม่สาย – ท่าขี้เหล็ก ที่เกิดปัญหาความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนระหว่างกันเกี่ยวกับมาตรการป้องกันโควิด-19 แพร่ระบาด ระบุเนื้อหาสรุปว่าตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของวันที่ 30 กันยายน 2563 อนุญาตให้รถบรรทุกสินค้าผ่านชายแดนเข้าท่าขี้เหล็กได้โดยไม่จำกัดจำนวน แต่ต้องเปลี่ยนคนขับหน้าด่านฯของแต่ละประเทศก่อนลำเลียงสินค้าเข้าตัวเมือง
หลังจากทางการท้องถิ่น จ.ท่าขี้เหล็ก ประกาศมาตรการจำกัดจำนวนรถขนสินค้าข้ามแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็กได้เพียงวันละ 6 คันตั้งแต่ 17 กันยายนเป็นต้นมา จากเดิมที่มีการขนส่งกันวันละกว่า 400-500 เที่ยว ทำให้มูลค่าการค้าที่เคยมีวันละกว่า 30-50 ล้านบาท ลดลงหลายเท่าตัวและทำให้รถขนสินค้าพากันแออัดบริเวณหน้าด่านเพื่อรอส่งออกมาร่วมครึ่งเดือน
น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย และประธานหอการค้า จ.ท่าขี้เหล็ก เปิดเผยว่าวานนี้(28 ก.ย.) คณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ระดับท้องถิ่น หรือทีบีซี ได้หารือกันที่โรงแรมวันจีวัน จ.ท่าขี้เหล็ก ได้ข้อสรุปว่าจะมีการอนุญาตให้มีการขนส่งสินค้าได้โดยไม่จำกัดจำนวนรถและสัญชาติได้เหมือนเดิม คือ 168 คันตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย เคยมีคำสั่งตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 มาก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นจำนวนที่ขนส่งกันอย่างเสรีอยู่แล้ว ส่วนกรณีการเปลี่ยนคนขับที่ด่านพรมแดนนั้นทั้ง 2 ฝ่ายก็ยินยอมให้มีการเปลี่ยนถ่ายคนขับเป็นคนในประเทศของตนต่อไปจนกว่าสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 จะเบาบางลง
กรณีทางการท้องถิ่นเมียนมาได้แจ้งขอให้มีการยกเว้นค่าธรรมเนียมสินค้าประเภทพืชผัก เนื้อ หมู ปลา ฯลฯ ในช่วงนี้ด้วยซึ่งทางฝ่ายไทยก็รับจะนำมาดำเนินการให้ และยกเว้นค่าธรรมเนียมกับรถของประเทศเมียนมาที่ติดป้ายทะเบียนประเทศไทยแล้วตกค้างอยู่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ทำให้กลับมาต่อทะเบียนกับสำนักงานขนส่งในฝั่งไทยไม่ทัน ทางด่านศุลกากรก็รับนำไปดำเนินการในเรื่องนี้แล้ว
ซึ่งหลังการหารือกันแล้วทั้ง 2 ฝ่ายก็เพียงแต่ขอเวลาจัดทำเอกสาร โดยทางทีบีซีฝ่ายไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันจัดทำเอกสารกันทันที กระทั่งมีการเปิดให้ขนส่งสินค้าข้ามชายแดนกันได้ตามเดิมดังกล่าว ซึ่งจะทำให้มูลค่าการค้าที่เคยตกค้างหน้าด่านพรมแดนวันละ 30-50 ล้านบาท กลับมาส่งออกได้อย่างคึกคักเหมือนเดิมต่อไป