ชีวิตของคนในยุคปัจจุบันเริ่มเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ใครที่ อยู่เป็น ก็รอด ส่วนคนที่อยู่ไม่เป็นก็รับสภาพไปตามๆ กัน โดยเฉพาะกับมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานในออฟฟิศอย่างเราๆ ต้องพบปะเพื่อนร่วมงานมากหน้าหลายตา ต่างคนก็ต่างมีนิสัยที่ไม่เหมือนกัน ทำเอาเรารู้สึกอึดอัดและยากที่จะปรับตัวได้เลย ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเอาเสียเลย แต่สุดท้ายแล้ว เราก็ต้องปรับตัวของเราให้เข้ากับเพื่อนร่วมงานและวัฒนธรรมองค์กร เพื่อความอยู่รอดของเรา

สำหรับใครที่กำลังหนักใจกับการปรับตัวเข้ากับที่ทำงานไม่ได้ เดี๋ยวแอดมินจะมาแนะนำวิธีการ “อยู่เป็น” ให้ทุกท่านได้ฟังกันค่ะ เคล็ดลับที่จะทำให้เพื่อนร่วมงานและเจ้านายรัก หรือแม้กระทั่งคนที่เป็นเจ้านายเองก็ต้องวางตัวให้คนเคารพและยอมรับอย่างเต็มใจที่จะร่วมงานด้วย ซึ่งการกระทำของเราแต่ละอย่างจะส่งผลต่ออนาคตการทำงานของคุณด้วย

1.ทำตัวให้เป็นกลางให้มากที่สุด

การจะอยู่ได้ในสังคมทำงาน บางทีเราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเลือกข้างไปเลย เพราะหากพลาดขึ้นมา อาจพลาดไม่เป็นท่าเลยก็ได้ เวลาที่เราต้องพูดกับเพื่อนร่วมงานหรือเจ้านาย แล้วเกิดการสอบถามโต้ตอบขึ้นมา ให้ตอบอย่างเป็นกลางให้มากที่สุด ไม่พยายามพูดเข้าข้างใคร หรือพูดว่าใครผิดหรือถูกไปแบบตรงๆ พยายามตอบเหมือนกับเหรียญที่มีสองด้าน เพื่อเป็นการที่จะได้ไม่สร้างศัตรูให้กับตัวเองด้วย

 

2.เอกการแสดงต้องมา แสดงภาพลักษณ์อ่อนน้อมถ่อมตน

งานนี้ใครแสดงเก่งก็รอดไปค่ะ แอดมินไม่ได้บอกว่าให้ทุกคนตอ...นะคะ หรือถ้าอยากมองแบบนั้นก็ได้ แต่ที่จริงแล้วมันเป็นเพียงอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้เราอยู่รอดในสังคมการทำงานต่างหากล่ะคะ หากเราเอาแต่ทำตัวขว้างโลก ไม่ยอมไหลไปตามวัฒนธรรมขององค์กรบ้าง อาจทำให้งานของคุณเกิดการหยุดชะงักได้ เพราะในสังคมออฟฟิศ เราต้องทำงานร่วมกับคนอื่น หากเราทำได้ดี แต่อีกคนไม่ให้ความร่วมมือกับคุณ ก็อาจทำให้คุณมีปัญหาได้ พยายามทำตัวอ่อนน้อมถ่อมตนเข้าไว้หรือเรียกอีกอย่างก็คือการใช้ Soft Power เข้าช่วยนั่นเอง

3.ตีสองหน้าได้อย่างไม่ระคายเคือง

ในกรณีที่แอดมินได้บอกว่าให้ ตีสองหน้า เพราะว่าคนเรามักจะมีหน้ากากที่สวมให้ตัวเองอยู่สองหน้าหรือสำหรับบางคนอาจจะมากกว่าสองหน้า เป็นสิบหน้าก็มี เพราะในสังคมนี้ ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถยอมรับตัวตนที่เราเป็นได้อย่างแท้จริง นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เราต้องมีหน้ากากเพื่อเปลี่ยนใส่ไปตามสถานการณ์ เพื่อให้เราเป็นที่ยอมรับของสังคมและทำให้การดำเนินชีวิตของเราผ่านไปได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ไปสะดุดเข้ากับปัญหาอะไร

เวลาทำงานก็เช่นกัน เวลาที่เราทำงาน เราอาจจะใส่หน้ากากที่ดูเคร่งขรึมและจริงจัง เพื่อให้งานออกมาได้อย่างดี พอเวลาคุยกับเพื่อนร่วมงาน เราอาจจะเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน ในขณะที่เวลาที่เราอยู่กับเพื่อนสนิท เราจะเป็นคนที่สนุกสนาน เฮฮา ร่าเริง และเป็นคนที่อบอุ่นเวลาอยู่กับคนในครอบครัว นี่เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติพิเศษของมนุษย์ที่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้อย่างง่ายดาย

 

4.ทำงานให้เนี๊ยบ อย่าให้มีข้อผิดพลาด

หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาว่าการที่จะอยู่รอดในสังคมการทำงาน ต้องทำการ ประจบประแจงเจ้านาย ซึ่งมันก็อาจจะเป็นจริงเพียงครึ่งหนึ่ง แต่หากเราเอาแต่ประจบเจ้านาย วันๆ ไม่ยอมทำอะไรเลย อย่าลืมว่าเรามาทำงานก็เพื่อเงินเดือนที่เราจะได้ไปใช้เลี้ยงชีวิตและเป็นการทำงานเพื่อบริษัท เราไม่ได้มาทำงานเพื่อเอาใจใครเป็นพิเศษ อีกทั้งหากเราสามารถทำงานของเราได้เป็นอย่างดี ไม่มีข้อผิดพลาดอะไรเกิดขึ้น เราอาจได้ความดีความชอบจากเจ้านายเราไปด้วยก็ได้ และยังเป็นความสามารถที่เราสร้างมันด้วยตัวเองด้วย ทำให้เกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง

5.ความรักเป็นเรื่องโรแมนติก แต่ไม่ใช่สำหรับที่ทำงาน!

มันคือเรื่องจริงอย่างที่เขาว่าจริงๆ นั้นแหละค่ะว่าความรักคือเรื่องของความโรแมนติก เป็นสิ่งที่สวยงามระหว่างคนสองคน ยิ่งถ้าใครที่มีแฟนอยู่ที่ทำงานเดียวกันด้วยล่ะก็ ยิ่งสวีทกันเข้าไปใหญ่ แต่หากความสัมพันธ์ของคุณสองคนถูกเปิดเผยและเพื่อนร่วมงานคนอื่นรู้เข้า อาจเกิดอาการอึดอัดและคุณทั้งคู่อาจโดนนินทาแบบเสียๆ หายๆ เข้าได้

ยิ่งไปกว่านั้น มันไม่ใช่ว่าทุกคู่ที่คบกันในที่ทำงานจะได้คบกันไปจนกระทั่งแต่งงานและมีชีวิตคู่ด้วยกัน บางคู่ก็ต้องเลิกรากันไป คราวนี้แหละที่เรียกได้ว่าหายนะได้เข้ามาเยือนในชีวิตของคุณทั้งคู่แล้ว เพราะทั้งพวกคุณและเพื่อนร่วมงานของคุณก็ต่างจะพากันอึดอัดในความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่ ต้องร่วมงานกับอดีตคนรักเก่า แบบนี้ไม่สนุกแน่ๆ

 

สรุป

ตอนเด็กเราก็อยากโต แต่พอเราโตมา ก็อยากกลับไปเป็นเด็ก ยิ่งเราโตขึ้น สังคมรอบๆ ตัวเราก็เริ่มยากขึ้น จากปกติที่เคยวิ่งเล่นสนุกสนานกับเพื่อน มีคนคอยปลอบประโลมเวลาเราร้องไห้ แต่พอโตมา สิ่งเหล่านั้นก็แทบจะไม่มีจริงแล้ว เราต้องเข้มแข็งและยืนหยัดได้ด้วยตนเอง อายุเปลี่ยนไป สังคมรอบตัวก็เปลี่ยนไป ทำให้เราต้องปรับตัวไปตามสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้น เพื่อเอาตัวรอดในโลกความเป็นจริง

สำหรับสังคมการทำงาน เราแทบจะใช้ชีวิตอยู่กับมันแทบตลอดเวลา เพราะเราต้องทำงานเพื่อแลกกับเงินมาเลี้ยงตัวเอง ในสังคมการทำงานเองก็มีความหลากหลาย เราอาจจะเจอทั้งคนที่ดีและคนที่ไม่ดีในเวลาเดียวกัน สิ่งสำคัญก็คือเราจะสามารถปรับตัวให้เข้ากับคนเหล่านั้นแล้วอยู่รอดได้อย่างไร สุดท้ายนี้แอดมินก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังท้อกับการทำงานและเพื่อนร่วมงานหรืออาจจะเป็นเจ้านายอยู่นะคะ แน่นอนว่าหากเราทำทุกอย่างแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผลเลย ยิ่งอยู่นานไปก็ยิ่งทำให้เสียสุขภาพจิต เราก็ต้องชั่งใจว่าระหว่างการลาออกแล้วหางานใหม่หรือการทนอยู่แล้วพยายามปรับตัวต่อไป แบบไหนคุ้มกว่ากัน

 

บทความแนะนำ

Author Image

Sunny

Happy Work Happy Life