คุณเคยคิดบ้างไหมว่า ทำไมบางครั้งเวลาเราทำงาน เรารู้สึกไม่มีสมาธิเลย ไม่สามารถจดจ่อกับงานที่กำลังทำอยู่ได้ บางทีกำลังนั่งทำงานอยู่ แต่จิตใจก็คิดฟุ้งซ่านไปหาเรื่องอื่นตลอดเวลาเลย ทำให้ทำงานเท่าไหร่ก็ไม่เสร็จเสียที หรือบางทีก็ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดน้อยลง นั่นก็เป็นเพราะว่าคุณไม่มีสมาธิในการทำงานยังไงล่ะ
หากใครที่กำลังประสบกับปัญหาการขาดสมาธิในการทำงานอยู่ ลองมาดูวิธีการเหล่านี้กันไหม? วิธีที่จะทำให้คุณมีสมาธิในการทำงานมากยิ่งขึ้น และยังทำให้งานออกมีประสิทธิภาพและประสิทธิมากกว่าเดิม กับ 7 วิธีการสร้างสมาธิในการทำงาน
1.จดจ่อกับเรื่องที่กำลังทำอยู่
‘สมาธิ’ หมายถึง การตั้งใจทำอะไรสักอย่างหนึ่งอย่างใจจดจ่อใจจ่อ ไม่วอกแวกไปไหน แต่หลายคนกำลังขาดสิ่งนี้ไป เพราะว่าในปัจจุบันมีสิ่งที่น่าสนใจอยู่รอบตัวเราอย่างมากมาย ดังนั้น ถ้าเราอยากทำงานให้เสร็จเร็วและมีประสิทธิภาพ เราควรมีสมาธิกับงานให้มากยิ่งขึ้น จะทำให้เราคิดงานได้ดีกว่าเดิมด้วย
2.จัดระเบียบความคิด
ในแต่ละวันจะมีความคิดหลายๆ อย่างเข้ามาในหัวของเรา ทั้งเรื่องชีวิตประจำวัน เรื่องในอดีต หรือเรื่องในอนาคต สิ่งต่างๆ ไหลเข้ามาในหัวของเราเสมอ มาลองอยู่นิ่งๆ แล้วมาจัดระเบียบความคิดของเรากันสักหน่อยดีกว่า ลองคิดดูว่าอะไรสำคัญที่สุดในเวลานั้น เราต้องทำอะไรเป็นอย่างแรก ต้องทำอย่างไร เรียงลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ ให้เป็นระเบียบแล้วค่อยทำมัน
3.เปิดโหมดการทำงาน
คนส่วนใหญ่ที่ต้องทำงานมักจะได้ทำงานเวลาเดิมๆ ซ้ำๆ ทำจนเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวัน ในตอนแรกๆ เราอาจจะยังไม่ชินที่ต้องตื่นแต่เช้า มาทำงาน ทำอะไรเหมือนเดิมอยู่ทุกวัน แต่เมื่อทำไปนานๆ แล้วเราก็จะชินไปเอง เราควรเตือนสติตัวเองทุกครั้งเวลาทำงานว่า เวลาไหนเป็นเวลาทำงาน และ เวลาไหนเป็นเวลาที่จะสามารถเล่นได้ ตั้งโหมดทำงานและโหมดต่างๆ ในตัวเราได้เลย แล้วมันจะทำให้เราสามารถทำงานได้ง่ายขึ้น เพราะร่างกายของเราจะตอบสนองแบบ Automatic
4.เหนื่อยก็พักก่อน
หลายคนอาจคิดว่าการพักในเวลางานดูไม่มีความเป็นมืออาชีพเอาซ่ะเลย แต่ที่จริงแล้ว หากร่างกายของเราเหนื่อย ไม่สามารถรับอะไรได้อีกต่อไป ต่อให้มีแรงในการทำงาน แต่งานที่ออกมาก็จะไม่มีประสิทธิภาพเลย ซึ่งเท่ากับสูญเปล่าไปเฉยๆ เมื่อคุณรู้ตัวแล้วว่าคุณเหนื่อย คิดอะไรก็ไม่ออก ลองออกไปเดินเล่น พูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน หรือหามุมสงบๆ พักผ่อนดู แล้วค่อยกลับมาทำงาน งานที่คุณทำจะลื่นไหลมากกว่าเดิมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
5.ฝึกควบคุมสมาธิ
สมองของเราก็เหมือนกับร่างกาย ต้องการการฝึกฝนจนตัวเราเริ่มชินกับสิ่งที่กำลังทำ สมองก็เช่นกัน หากจิตใจของเราไม่แข็งมากพอที่จะบังคับให้เราเกิดสมาธิได้ ก็ลองทำสมาธิดู เช่น การนั่งสมาธิ ออกกำลังกายด้วยวิธีโยคะ กำหนดลมหายใจเข้าออก พยายามดึงสติตัวเองกลับมา ไม่ให้คิดฟุ้งซ่านไปในเรื่องอื่น คิดแต่ในสิ่งที่จำเป็นตรงหน้าของเราก็พอ ฝึกไปวันละนิดวันละหน่อย เดี๋ยวก็ชินเอง แล้วเราจะสามารถทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น
6.รักษาสุขภาพให้แข็งแรง
การรักษาสุขภาพทำได้ง่ายๆ โดยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำให้พอดีกับร่างกาย และออกกำลังกายเป็นประจำ นอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงห่างไกลจากโรคร้ายแล้ว ยังส่งผลดีต่อสมองด้วย เพราะเป็นการเพิ่มปริมาณสารแห่งความสุขโดยสารเอ็นดอร์ฟิน ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้า โรคหลอดเลือดสมอง โรคอัลไซเมอร์ และโรคเบาหวานด้วย
7.ให้รางวัลกับตัวเอง
เหนื่อยให้สุดแล้วหยุดที่การให้รางวัลกับตัวเอง ไหนๆ ก็ทำงานมาเหนื่อยทั้งวันแล้ว ทำงานด้วยความตั้งใจ ทำงานอย่างเต็มที่ เราก็อาจจะให้รางวัลกับตัวเองเล็กๆ น้อยๆ บ้าง เช่น ออกไปกินอาหารที่ชอบ นั่งดูหนังฟังเพลง หรือทำกิจกรรมอะไรซักอย่างที่จะไม่เปลืองเวลาในการทำงานของคุณมากจนเกินไป เพื่อให้คุณได้รู้สึกว่ายังมีสิ่งดีๆ ที่ทำให้มีกำลังในการสู้ต่อการทำงานต่อไปอยู่
สรุป
วิธีการสร้างสมาธิเหล่านี้ ขึ้นอยู่กับตัวผู้ปฏิบัติด้วยว่าจะสามารถทำได้มากน้อยแค่ไหน ตั้งใจทำมากแค่ไหน ซึ่งผลลัพธ์ในแต่ละครั้งก็จะแตกต่างกันออกไป วิธีการเหล่านี้นอกจากจะช่วยให้ผู้ปฏิบัติมีสมาธิมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว ยังช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีสุขภาพจิตของคุณดีตามไปด้วย หากใครที่เพิ่งลองทำแล้วไม่สำเร็จ ก็อย่าเพิ่งท้อไปนะคะ ลองฝึกฝนไปเรื่อยๆ ฝึกฝนทำปฏิบัติทุกวัน แล้วคุณก็จะชินและสามารถทำมันได้ดีเอง
บทความแนะนำ