ปัจจุบันนี้คนเราต้องพบเจอกับความเครียดในทุกวัน ยิ่งกับการทำงานแล้วยิ่งเข้าไปใหญ่ เจอกับการกดดันจากหัวหน้างานและเพื่อนร่วมงาน อยากพูดกับใครก็พูดด้วยยาก จะไม่จริงจังก็ไม่ได้ เพราะต้องทำงานให้ออกมาดีที่สุด ดังนั้นหลายๆ คนก็มักจะมีวิธีในการแก้เครียดในแบบของตัวเอง

ซึ่งบางวิธีก็ถือว่าเป็นวิธีที่ผิด เพราะนอกจากจะไม่หายเครียดแล้วยังทำให้เสียสุขภาพไปอีกด้วย วันนี้เราจะมาบอกแนะนำ 5 พฤติกรรมที่เราคิดว่าทำแล้วหายเครียด แต่ที่จริงแล้วทำเอาเครียดกว่าเดิมอีก

นาฬิกา

กินข้าวแล้วเสียเวลา ทำงานดีกว่า

หลายคนเมื่อเกิดอาการเครียดแล้ว กระเพาะก็จะไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ เพราะมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องนั้นๆ โดยเฉพาะอาหารเช้า ถือว่าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดของวันเลยทีเดียว หากลืมกินมื้อนี้แล้วล่ะก็ ระบบย่อยอาหารภายในร่างกายก็จะเกิดความแปรปรวนและไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ

หรือแม้กระทั่งอาหารมื้ออื่นๆ อย่างมื้อเที่ยงหรือมื้อเย็นที่เราคิดว่าจะกินหรือไม่กินก็ได้ ก็ถือว่าเป็นมื้ออาหารที่มีความสำคัญเช่นกัน เพราะคนเรามัวแต่คิดว่าอยากจะทำงานให้จบ ทำงานให้เสร็จรวดเดียวไปเลย จนลืมไปว่าร่างกายเราเองก็ต้องการช่วงเวลาที่ได้พักผ่อนบ้าง หากทำงานหนักเกินไปจนลืมเวลากินข้าว ก็จะทำให้เราเกิดอาการสับสน หน้ามืดตามัว ปวดท้อง เบลอ มึนงง ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อการทำงานแน่นอน

ดื่มกาแฟ

ดื่มกาแฟดีกว่าดื่มน้ำเปล่า

เวลาเลือกเครื่องดื่มที่จะดื่มเวลาทำงาน ตัวเลือกแรกๆ ที่คนส่วนใหญ่เลือกก็คือ ‘กาแฟ’ เพราะเชื่อว่าการดื่มกาแฟจะช่วยให้ร่างกายตื่นตัวและมีแรงที่จะทำงานต่อไป ถือว่าเป็นความจริงประมาณครึ่งหนึ่ง เพราะว่าการดื่มกาแฟทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าและตื่นตัว แต่เป็นแค่ผลในระยะสั้น เพียงแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น

แต่ถ้าดื่มมากๆ ก็จะทำให้เครียดมากกว่าเดิม คาเฟอีนทำให้เกิดอาการใจสั่นและกระตุ้นให้ร่างกายต้องมีการขับน้ำออก ทำให้ต้องไปปัสสาวะอยู่บ่อยๆ และทำให้ร่างกายขาดน้ำ มีอาการปากแห้ง คอแห้ง ริมฝีปากแห้ง ไม่มีสมาธิในการทำงาน ทางที่ดีควรดื่มน้ำเปล่ามากกว่า ถ้าให้แนะนำควรจิบน้ำอุ่นๆ ระหว่างทำงานจะดีกว่า

ดื่มกาแฟ

เครียดๆ แบบนี้ไปดื่มแอลกอฮอล์ดีกว่า

หนักกว่าการดื่มชาและกาแฟก็คือการดื่มแอลกอฮอล์นี่แหละ แม้จะเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตของเหล่าคนวัยทำงาน หลังเลิกงานหรือปาร์ตี้มักจะมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ด้วยเสมอ

แอลกอฮอล์จะให้ผลที่ตรงข้ามกับชาและกาแฟ เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ทำให้เราเกิดอาการง่วงซึม ซึ่งทำให้เราเข้าใจผิดว่าเรากำลังผ่อนคลายอยู่ ยิ่งดื่มเยอะมากขึ้น ก็ยิ่งขาดสติมากขึ้นเท่านั้น อาจเผลอทำอะไรแย่ๆ ไปโดยไม่รู้ตัว แล้วสุดท้ายก็จะหมดสติไป เมื่อตื่นมาก็จะเครียดกับสิ่งที่ทำมากกว่าเดิม บางรายเกิดอาการเมาค้าง ปวดหัว คลื่นไส้ตลอดทั้งวัน

หากต้องการดื่มแอลกอฮอล์จริงๆ แนะนำให้ดื่มไวน์มากกว่า และไม่ควรดื่มเกินกว่า 2 แก้ว หากดื่มมากว่านั้นอาจเมา แล้วหมดสติไปก็ได้

เล่นมือถือ

เล่นโทรศัพท์แก้เครียดดีกว่า

ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ ว่าเวลาก่อนนอนเป็นเวลาที่เราเล่นโทรศัพท์กันมากที่สุด เพราะรู้สึกอยากเคลียร์ทุกอย่างให้จบก่อนนอน แต่ว่าการเล่นโทรศัพท์หรือการคุยแชทในโทรศัพท์ก่อนนอน ทำให้ร่างกายของเราตื่นตัวและทำให้เรานอนหลับยากกว่าเดิม จากปกติที่เวลาร่างกายถึงเตียงก็ต้องนอน ร่างกายก็จะเปลี่ยนมาเข้าใจว่าพอร่างกายถึงเตียงปุ๊บก็จะเป็นเวลาในการเล่นโทรศัพท์

เมื่อนอนไม่หลับบ่อยๆ ก็จะทำให้ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ฮอร์โมนที่สำคัญต่อร่างกายก็จะไม่หลั่งออกมา หรือหลั่งมาน้อย ร่างกายก็ไม่ได้รับการซ่อมแซมตามที่ควรได้รับ ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลีย สมองเบลอ คิดอะไรไม่ค่อยออก เมื่อรวมกับความเครียดที่ก่อตัวขึ้นมาอีก อาการง่วงๆ มึน ๆจะยิ่งทำให้ร่างกายและจิตใจเครียดเพิ่มไปอีก

ทำงาน

แค่หายใจก็เครียดแล้ว

หลายคนอาจกำลังสงสัยอยู่ก็ได้ว่าแค่หายใจทำไมต้องเครียดด้วย นั่นก็เพราะว่าเราอาจหายใจแบบผิดๆ อยู่ หายใจแบบไม่สม่ำเสมอ หายใจเร็วไป หายใจช้าไป กลั้นหายใจ หรือหายใจสั้นๆ

ซึ่งการหายใจไม่ถูกวิธีเป็นสาเหตุให้ออกซิเจนเข้าไปในปอดได้ไม่เพียงพอ ทำให้อวัยวะต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ไม่เต็มที่ ร่างกายเกิดอาการอ่อนเพลีย เพราะการหมุนเวียนเลือดในร่างกายไม่ดี  ทำให้ร่างกายเครียด จึงทำอะไรได้ไม่เต็มที่  ดังนั้น ถ้าอยากหายเครียดก็ต้องหายใจให้ถูก

วิธีการฝึกหายใจให้ถูกวิธี สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง โดยการฝึกหายใจก่อนนอนบนเตียง หรือจะนั่งสมาธิก็ได้ แล้วหายใจเข้าช้าๆ จนท้องป่อง ค้างไว้สักพัก แล้วผ่อนลมหายใจจนท้องแฟ่บ ทำซ้ำไปเรื่อยๆ ประมาณวันละ 10-15 นาที จะช่วยให้สมองแจ่มใสขึ้น ช่วยลดความเครียดของกล้ามเนื้อในร่างกายได้

 

สรุป

ใครที่กำลังเครียดอยู่ ลองหาวิธีคลายเครียดในแบบของตัวเองดูนะคะ เป็นการคลายเครียดแบบที่ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของคุณหรือทำให้คุณเครียดมากกว่าเดิม การคลายเครียดนั้นมีหลายแบบ เช่น การไปออกกำลังกายหลังเลิกงาน การเข้านอนและตื่นนอนเป็นเวลา กินอาหารให้ครบทุกมื้อ เป็นต้น

แต่อย่าทำตาม 5 พฤติกรรมที่เราคิดว่าทำแล้วหายเครียด แต่ที่จริงแล้วทำเอาเครียดกว่าเดิมอีก โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ทำให้บางคนต้องอยู่แต่กับบ้าน ไม่สามารถไปไหนได้ ก็ลองหาวิธีการทำกิจกรรมในบ้านดู ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่เลว เพราะสามารถทำได้ง่ายๆ ที่บ้านด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก Goodlifeupdate.com

 

บทความแนะนำ

Author Image

Sunny

Happy Work Happy Life