เปิดทักษะ เด็กจบใหม่ควรมี หากอยากได้งานทำ
ในแต่ละปีได้มีเด็กจบใหม่ออกมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ตลาดมีไม่เพียงพอกับแรงงานที่มากล้น จนเกิดอัตราการว่างงานสูง และเริ่มที่จะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะปัจจุบันเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ทำให้มีหลายบริษัทที่ต้องปิดตัวลง หรือไม่ก็ลดจำนวนคนภายในบริษัท ส่วนบริษัทที่เปิดหาคนเข้าทำงานก็ต้องการคนที่มีความสามารถสูงในการทำงานภายในบริษัท ดังนั้นหากเด็กจบใหม่อยากได้งานทำเร็ว ๆ และเป็นที่ต้องการตัวขององค์กร ก็ควรจะมีทักษะที่ติดตัวมากกว่าสาขาวิชาชีพที่ตัวเองเลือกเรียนมา โดยทักษะที่เด็กจบใหม่ควรมีติดตัวไว้ ประกอบด้วย
-
ทักษะด้านภาษา
หากพูดถึงยุคนี้แล้วล่ะก็ ภาษาถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก นอกจากภาษาแม่ของเราอย่างภาษาไทยแล้ว หากเราสามารถพูดภาษาอังกฤษได้แล้วล่ะก็จะได้เปรียบคนอื่นอีกเท่าหนึ่ง และหากสามารถพูดภาษาที่สามได้เพิ่มก็จะสามารถอัพเงินเดือน และสามารถก้าวหน้าในหน้าที่การงานได้มากกว่าเดิม
เนื่องจากเวลาที่เราต้องติดต่องานในบางครั้ง เราจะเป็นต้องสื่อสารกับชาวต่างชาติ การที่เราสามารถพูดและเข้าใจภาษาอังกฤษได้ดีหรืออาจจะพูดภาษาของอีกฝ่ายได้ จะเป็นการสร้างความประทับเป็นอย่างมากให้กับคู่สนทนาของคุณ อีกทั้งเอกสารส่วนใหญ่ยังเป็นภาษาอังกฤษอีกด้วย
-
ทักษะด้านเทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์
ปัจจุบันเทคโนโลยีได้เข้ามาครอบคลุมชีวิตของเรามากยิ่งขึ้น ตั้งแต่ชีวิตการทำงานไปจนถึงชีวิตส่วนตัว เราใช้เทคโนโลยีในการทำให้ชีวิตดำเนินไปได้ง่ายกว่าเดิม
ดังนั้นแล้ว นอกจากความรู้ด้านภาษาที่เราต้องมี เราจำเป็นต้องมีทักษะด้านเทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์อีกด้วย ไม่ว่าจะทำงานแบบไหน ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะใช้คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีต่างๆ เป็นตัวหาข้อมูลและจัดเก็บข้อมูลงานของเรา ยิ่งใครที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยีแบบ Advance ไปอีกขั้นแล้วล่ะก็ รับรองว่าบริษัทจะต้องปลื้มคุณเป็นอย่างมากแน่นอน
-
ทักษะในการเข้าสังคม
นอกจากการทำงานที่รับมอบหมายให้ดีแล้ว เราต้องอย่าลืมว่าทุกบริษัทนั้นมีวัฒนธรรมองค์กรของตัวเองและเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในการที่เราจะอยู่ในบริษัทได้ บางคนอาจจะคิดว่าเรามาที่ออฟฟิศก็ต้องมาทำงาน เรื่องการเข้าสังคมไม่มีความจำเป็น แต่ที่จริงแล้วมันสำคัญกว่านั้น
เพราะการสังคมได้ดีนั้นก็แปลว่าเราจะสามารถทำงานได้อย่างมีความสุขและราบรื่นกว่าเดิม นอกจากนั้นยังโยงไปเกี่ยวกับทีมเวิร์คด้วย เพราะหากเราเข้ากับเพื่อนที่ทำงานได้ดีก็จะสามารถทำงานร่วมกับคนอื่นได้อย่างราบรื่นและมีผลงานออกมาได้ดีอีกด้วย
-
ทักษะในการพูด
ไม่ว่านิสัยส่วนตัวคุณจะเป็นแบบไหน ทั้งนิสัยที่ชอบเข้าสังคม สนุกสนาน เฮฮาปาร์ตี้หรือนิสัยแบบคนที่มีโลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบสุงสิงกับใคร แต่เมื่อคุณต้องพูดในที่ทำงาน ให้ทิ้งตัวตนที่คุณเป็นออกไปชั่วคราวแล้วเอาอีกตัวตนหนึ่งออกมา คุณต้องสื่อสารให้อีกฝ่ายเข้าใจ ชัดเจน และต้องมีท่าทีสุภาพอ่อนน้อมเสมอ แต่ก็ต้องมีความมั่นใจในตัวเองด้วย
เพราะเมื่อเราดูมีความมั่นใจในตัวเองแล้ว ก็จะทำให้อีกฝ่ายเชื่อมั่นในตัวเราด้วย แม้แต่การนำเสนองานหรือการพูดคุยเจรจากับลูกค้า ในการพูดคุย ไม่จำเป็นว่าเราต้องพูดฟังและนำเอาสิ่งที่อีกฝ่ายพูดมาทำเพียงอย่างเดียว แต่เราต้องรู้จักโน้มน้าวจิตใจของอีกฝ่ายให้ได้ด้วย แล้วหาจุดกึ่งกลางในการทำข้อตกลงก็ถือว่า win-win กันแบบทั้งคู่
-
ทักษะความสามารถรอบด้าน
สิ่งที่ HR กำลังหาจากตัวผู้สมัครงานในหลายๆ บริษัทนั้นก็คือ ‘Multi-task’ สำหรับบุคคลที่สามารถทำงานได้หลากหลายอย่างและหลายแนวเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมาก เนื่องจากจ้างคนเดียวแต่สามารถทำงานได้หลายอย่าง คุ้มค่าแก่บริษัทในการที่จะจ้างงานคนประเภทนี้ เช่น HR หรือฝ่ายบุคคลที่ทำหน้าที่ในการบริหารทรัพยากรมนุษย์ภายในองค์กร นอกจากความรู้ทางด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์แล้ว หากมีความรู้ความสามารถในด้านการตลาดหรือการบริหารด้วยแล้ว ก็จะสามารถตอบโจทย์บริษัทได้มากยิ่งขึ้น
-
ทักษะในการแก้ปัญหา
การแก้ปัญหาเป็นหนึ่งในทักษะที่ทุกคนจะต้องมีติดตัว ไม่ว่าจะตำแหน่งไหนก็ต้องเผชิญกับปัญหาอยู่เสมอ เราต้องสามารถจัดการปัญหาที่เข้ามาโดยไม่ทำให้เกิดความเครียดหรือกระทบต่อจิตใจของเรา มองว่าเป็นเรื่องท้าทายของชีวิตจะดีกว่า เราควรแก้ไขปัญหาให้ได้ทั้งในเชิงการวิเคราะห์ปัญหาและเชิงสร้างสรรค์
อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับว่าปัญหานั้นคืออะไร ยิ่งเราเจอปัญหามากเท่าไหร่ ในครั้งต่อไปเราก็จะสามารถแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ดียิ่งขึ้น หากเราสามารถแก้ปัญหาได้ดี ก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเป็นผู้นำ ความมีสติ และความรอบรู้ของเรา
-
ทักษะในการอดทนต่อแรงกดดัน
เด็กยุคใหม่ขึ้นชื่อมากในเรื่อง ‘ความอดทนต่ำ’ มักไม่ค่อยฟังใคร ยึดมั่นในความคิดของตัวเอง ไม่ชอบให้ใครมาควบคุม โดยไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นหรือคำแนะนำจากผู้อื่นเลย ผลสุดท้ายก็ต้องลาออกแล้วไปหาที่ทำงานใหม่อีกครั้ง ด้วยความที่เด็กยุคใหม่เกิดขึ้นมาในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิต
อะไรก็รวดเร็วไปหมด ไม่จำเป็นต้องรออะไรเป็นเวลานานเหมือนสมัยก่อน ดังนั้นลองมาแก้ปัญหาอย่างใจเย็น ลองรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นบ้าง ค่อยๆ แก้ไขปัญหาไป ไม่ต้องเร่งรีบ แก้ไขจนสำเร็จในที่สุด ลองมีความอดทนเพิ่มมากขึ้นอีกหน่อย อาจจะไม่ต้องลาออกหรือย้ายบริษัทใหม่บ่อยๆ ก็ได้
สรุป
เด็กจบใหม่หลายๆ คนอาจจะประสบปัญหากับการทำงานหรือการหางานอยู่ในตอนนี้ ด้วยเพราะเศรษฐกิจในตอนนี้หรือเพราะยังไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสังคมการทำงานได้ แต่ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นก็ตาม สิ่งที่สำคัญก็คือเราต้องเรียนรู้จากปัญหาที่เราพบเจอแล้วก็หัดแก้ไขปัญหาได้ พร้อมเผชิญหน้ากับปัญหาที่ต้องเจอ นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการทำงานหรือการหางานของเด็กจบใหม่
บทความแนะนำ
