“ตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ” หลายคนอาจจะเคยได้ยินสำนวนนี้กันมานาน ยิ่งตาดูสดใสมากแค่ไหน ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเรา แต่ในบางครั้งที่เราต้องทำงานอยู่หน้าคอมหรือใช้โทรศัพท์เป็นเวลานานๆ ก็ทำให้ดวงตาของเราเกิดอาการอ่อนล้าได้ จากดวงตาที่เคยเห็นแล้วสดชื่นน่ามอง ก็จะกลายเป็นดวงตาที่ยิ่งมองยิ่งรู้สึกเหนื่อย
“ตา” เป็นหนึ่งในอวัยวะสำคัญของร่างกายของเรา หากไม่มีตา ก็จะไม่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ การดูแลดวงตาจึงสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงหรือการทำความสะอาดดวงตา เพื่อให้ดวงตาคู่งามของเราอยู่กับเราไปนานๆ มาดู 7 วิธีดูแลดวงตาให้ดูสดใสอยู่ตลอดเวลากันได้เลยค่ะ
- นั่งห่างจากจอคอม มือถือ แท็บเล็ต ประมาณ 20-28 นิ้ว
ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ มือถือ หรือแท็บเล็ต จะมีแสงสีฟ้าออกมาจากหน้าจอ แสงสีฟ้าเป็นแสงที่ส่งผลเสียทำให้จอประสาทตาเราค่อยๆ เสื่อมลงได้ หากรับในปริมาณที่มากเกินไป ดังนั้นเราจึงควรพยายามออกมาให้ห่างจากแสงเหล่านั้น
- ระวังอย่าให้มีแสงจากภายนอกส่องสะท้อนกับหน้าจอ
แสงจากภายนอกที่จ้าเกินไป อาจลดได้โดยใช้ม่าน มู่ลี่บังแสงนั้น ขณะเดียวกัน กำแพงห้องควรใช้สีแบบด้านทา ไม่ควรเป็นสีน้ำมันหรือวัสดุที่สะท้อนแสงได้ ปรับจอภาพไม่ให้รับแสงสะท้อนจากหลอดไฟหรือ แสงจากภายนอก ขณะเดียวกันอาจใช้แผ่นกั้น ไม่ให้แสงส่องมากระทบที่จอ หรือใช้แผ่นกั้นแสงแบบขุ่นเพื่อให้แสงจากหลอดไฟจ้าลดลง หากไม่สามารถจัดการกับแสงจ้าภายนอกได้ อาจใช้วิธีการเพิ่มแสงภายในให้มากขึ้น อย่าให้ห้องที่ทำงานมืดเกินไป เพราะจะรู้สึกผลของแสงภายนอกจ้ารบกวนตามากกว่าปกติ
- ปรับความสว่างหน้าจอให้อยู่ในระดับที่มองแล้วสบายตา
ปรับระดับความเข้มของแสงและความแตกต่างระหว่างตัวหนังสือในจอกับพื้นที่ของจอ (contrast) ให้เหมาะสมตามความรู้สึกที่สบายของตนเอง อย่างไรก็ตาม แนะนำให้พื้นที่จอควรเป็นสีอ่อน หรือขนาดตัวหนังสือและไอคอน (icon) ที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ไม่ควรมีขนาดเล็ก เพราะทำให้ต้องเพ่งและใช้สายตามากเกินไป
- ติดแผ่นกันแสงสะท้อนบนหน้าจอ
แผ่นกรองแสงที่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลดแสงสะท้อนได้ เพราะการควบคุมต้นกำเนิดแสงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการกันแสงสะท้อนบนหน้าจอ
- ละสายตาจากหน้าจอทุก 20 นาที ครั้งละ 20 วินาที
หากเราไม่รู้จักการพักสายตาทุกๆ 20 นาที อาจเป็นสาเหตุของการเกิดอาการคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรมได้ ควรทำการพักสายตาจากหน้าจอทุกๆ 20 นาที แล้วมองไปที่วัตถุที่อยู่ไกลอย่างน้อย 20 ฟุต นานประมาณ 20 วินาที จะช่วยให้สายตาได้พักผ่อนบ้าง
- กะพริบตาให้บ่อยขึ้น
ปกติแล้วคนเรามักจะเผลอกะพริบตาอยู่บ่อยครั้งโดยที่ไม่รู้ตัว ประมาณ 15-20 ครั้งต่อวินาที แต่สำหรับผู้ที่สายตาไม่ดี กล้ามเนื้อตาจะเกร็งตัว ทำให้จำนวนครั้งในการกะพริบตาลดลงมาก เวลาเรารู้สึกเมื่อยตา เพราะอ่านหนังสือหรือจ้องหน้าจอมากเกินไป จนทำให้เมื่อดวงตา ควรกระตุ้นกล้ามเนื้อตาด้วยการหลับตาลง แล้วลืมตาขึ้น เพื่อช่วยคลายการล้า อีกทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมกล้ามเนื้อตาได้อีกด้วย ในการกระพริบตาควรหลับตาเพียงเบาๆอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่หลับตาแน่นจนเกินไป
- ถ้ารู้สึกตาแห้ง ระคายเคือง ควรใช้น้ำตาเทียมหยอดตาเพิ่มความชุ่มชื่น
ทุกคนที่ใส่คอนแทคเลนส์มักจะมีน้ำตาเทียมเป็นไอเท็มประจำตัวเสมอ แต่ที่จริงแล้ว คนสายตาปกติก็สามารถใช้ได้หากตาแห้ง เพราะน้ำตาเทียมสร้างขึ้นมาเพื่อนำมาใช้หล่อลื่นลูกตา เพราะมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับน้ำตาธรรมชาติ ช่วยบรรเทาอาการระคายเคือง อาการแสบหรือไม่สบายตา
หากมีอาการแสบ หรือระคายเคืองตาอย่างรุนแรงหลังจากที่ใช้น้ำตาเทียม มีความผิดปกติในการมองเห็น หรือมีอาการปวดตา ให้หยุดใช้น้ำตาเทียมในทันทีและควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
สรุป
สำหรับใครที่ต้องทำงานออฟฟิศหรือว่าต้องทำงานที่ต้องใช้สายตาจ้องหน้าจอคอม แท็บเล็ต มือถือเป็นเวลานาน ควรดูแลสายตาตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม เพราะดวงตาของคุณต้องเผชิญกับแสงสีฟ้าที่ทำลายจอประสาทดวงตาตลอดเวลา รวมถึงการใช้สายตาในการมองจ้องเข้าไปในจอเป็นเวลานาน สิ่งที่สำคัญของการดูแลสายตาคือพยายามพักการใช้สายตา ไม่มองหน้าจอนานๆ ออกไปพบปะธรรมชาติบ้าง เพื่อเป็นการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจของเรา
บทความแนะนำ