CV กับ Resume เหมือนและต่างกันอย่างไร
หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า CV และ Resume มาก่อนในเวลาที่ต้องทำการสมัครงานหรือสมัครเรียน และเข้าใจว่ามันคือการส่งประวัติส่วนตัวเหมือนกัน แต่ที่จริงแล้วค่อนข้างมีความแตกต่างกัน ก่อนอื่นเราต้องทำความรู้จักกับ 2 คำนี้ให้มากขึ้นก่อน
CV หรือ Curriculum Vitae
มาจากภาษาลาติน เป็นการเขียนประวัติส่วนตัวในเชิงลึก เรื่องราวของชีวิต ประวัติการศึกษาและประสบการณ์การทำงาน อาจจะรวมไปถึงงานเขียน งานวิจัย หรือผลงานต่างๆ ที่เราได้ทำมา ทั้งนี้อาจรวมถึงประวัติส่วนตัวโดยย่อ เช่น สถานภาพสมรส เชื้อชาติ วันเกิด
หรือแม้แต่ต้องแนบรูปภาพของตนเอง ความยาวของการเขียน CV จะมีความยาวมากกว่า 2 หน้าขึ้นไปและไม่ควรเกิน 3 หน้า นอกจากใช้สมัครงานแล้ว บางทียังใช้ในการสมัครเรียนต่อหรือสมัครทุนได้อีกด้วย รูปแบบของการเขียน CV ค่อนข้างคงตัว ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงมากนัก
สิ่งสำคัญในการเขียน CV
- ซื่อสัตย์และจริงใจ
เนื้อหาใน CV นั้นต้องมาจากชีวิตจริงเท่านั้น สามารถตรวจสอบได้ 100% เพราะอย่าลืมว่าเนื้อหาทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นประวัติการศึกษา ประสบการณ์การทำงาน หรือแม้กระทั่งรางวัลที่ได้รับในงานต่างๆ ทางบริษัทหรือสถาบันการศึกษาที่เรายื่นไป สามารถตรวจสอบเราได้ หากพบว่าไม่เป็นความจริงหรือเขียยนเกินความจริงก็สามารถปรับตกได้
- ไวยากรณ์การใช้ภาษาและการเว้นวรรคตอน
ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชั่นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ สิ่งที่ควรระมัดระวังมากที่สุดก็คือการใช้ภาษา เนื่องจากว่า CV มีความยาวที่ยาวกว่า Resume และยังมีประวัติที่ต้องเขียนบรรยายในเชิงลึก ทำให้ต้องใช้ภาษาในรูปแบบประโยคค่อนข้างเยอะ โดยทั้งหมดทั้งมวลนี้ถือเป็นการโชว์ทักษะในด้านภาษาของคุณเช่นกัน นอกจากนี้การแบ่งวรรคตอนก็เป็นเรื่องสำคัญ หรือแม้กระทั่งการทำตัวหนังสือหนาหรือขีดเส้นใต้ เพราะทั้งหมดนี้จะทำให้ CV ของเราอ่านง่ายและดูเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น
- น่าอ่าน สร้างสรรค์ และทันสมัย
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ CV เป็นการเขียนประวัติโดยย่อเชิงลึกแต่มีความยาวมากกว่า Resume เพราะต้องเขียนบรรยายเกี่ยวกับตัวเองด้วย ดังนั้นเวลาที่เนื้อหามีความยาวมากเกินไปก็อาจทำให้ผู้อ่านขาดความสนใจและรู้สึกเบื่อ เราจึงควรดีไซน์การเขียน CV ในแบบของเราและต้องดูด้วยว่าตำแหน่งงานที่เราสมัครเป็นตำแหน่งอะไร เน้นในเรื่องไหน รูปแบบแบบไหนที่จะแสดงให้เห็นถึงความเหมาะสมกับตำแหน่งนั้นมากที่สุด
Resume หรือ résumé
มาจากภาษาฝรั่งเศส เป็นเอกสารที่ใช้สรุปข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดและประวัติการทำงานของผู้สมัครงาน เน้นหนักไปที่คุณสมบัติของผู้สมัครงานกับตำแหน่งงานที่สมัครว่ามีความสอดคล้องกันมากน้อยแค่ไหน เราไม่จำเป็นต้องทำเป็นแบบเดียวเหมือนกับ CV สามารถทำออกมาได้ในหลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งงานที่เราสมัครแล้วใส่ความคิดสร้างสรรค์ของเราเข้าไปในเรซูเม่ และควรเขียนให้ได้ทั้งหมดภายใน 1 หน้ากระดาษ เน้นความกระชับของเนื้อหา โดยคุณอาจไม่จำเป็นต้องใส่กิจกรรมหรืองานพิเศษใดๆ ลงไปในเรซูเม่เลย โดยสามารถบางออกเป็น 3 แบบ ได้แก่
- Chronological Resume – แบบเน้นประสบการณ์ในการทำงาน
Chronological Resume เน้นการลำดับเหตุการณ์เป็นสำคัญ อะไรมาก่อนมาหลัง โดยจะเขียนเอาเหตุการณ์ล่าสุดมาก่อน เรียกว่า Reverse-Chronological เช่น ล่าสุดจบจากไหนมา หรือทำงานบริษัทไหนมา ซึ่งเรซูเม่แบบนี้จะเป็นที่นิยมกันมาก และเป็นที่รู้จักกันดีกว่ารูปแบบอื่น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่จะเปลี่ยนงานไปในตำแหน่งที่สูงกว่า
- Functional Resume – แบบเน้นทักษะ และความสามารถ
Functional Resume เป็นเรซูเม่ที่เน้นในด้านทักษะและความสามารถเฉพาะบุคคลเป็นสำคัญ คุณมีความสามารถอะไร เก่งด้านไหน ก็สามารถโปรโมทตัวเองได้อย่างเต็มที่ในพื้นที่นี้ ส่วนประวัติการทำงานก็เหมือนกับการเขียนประวัติการทำงานทั่วไป เช่น ว่าเคยทำงานที่ไหนมาบ้าง ตำแหน่งอะไร แต่ไม่ได้กล่าวรายละเอียดอย่างเจาะจงมากเท่าไหร่
ถ้าไม่ได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง ทำงานบ้างไม่ทำงานบ้าง มีการขาดช่วงในการทำงาน ไม่เหมาะที่จะนำมาเขียนแบบ Chronological Resume ดังนั้นเรซูเม่แบบนี้ เหมาะกับคนที่มีความรู้ความสามารถสูง แต่อาจขาดช่วงในการทำงานไปบ้าง หรือถ้างานไหนที่ไม่เน้นประสบการณ์ แต่เน้นความสามารถเป็นหลัก ก็ให้ใช้เรซูเม่แบบนี้
- Combination Resume– แบบผสมผสาน
Combination resume จะเป็นการผสมผสานกันระหว่าง Functional Resume และ Chronological Resume เป็นเรซูเม่สำหรับคนที่มีประสบการณ์ในการทำงานสูง และมีความรู้ความสามารถสูง เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำงานมาอย่างโชกโชน มีความรู้ความสามารถในขั้นเป็นผู้นำได้
แน่นอนว่าถ้ามีประสบการณ์ในการทำงานที่ยาวนาน และความรู้ความสามารถที่เพียบพร้อม การจะได้งานในตำแหน่งที่ต้องการก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากนัก เพราะบริษัทส่วนใหญ่ย่อมต้องการคนที่มีความรู้และประสบการณ์ในการทำงานที่ดีเลิศอยู่แล้ว
สรุปความแตกต่างระหว่าง CV และ Resume |
|
เป็นการเขียนประวัติส่วนตัวในเชิงลึก |
เป็นการเขียนประวัติส่วนตัวแบบย่อ ไม่ละเอียด |
รูปแบบทางการ |
ไม่ต้องเป็นทางการมาก |
เรื่องราวทุกอย่างในชีวิตที่มีผลกับงาน |
เขียนเกี่ยวกับตำแหน่งงานที่สมัคร |
ส่วนใหญ่ในภาครัฐ วิชาการ หรือขอทุน |
ใช้ได้ทั้งในบริษัทหรือภาคเอกชน |
2-3 หน้า |
1 หน้า |
สรุป
CV และ Resume เป็นการเขียนประวัติส่วนตัวทั้งคู่ แต่ CV เป็นการเขียนประวัติส่วนตัวเชิงลึก มีรูปแบบเป็นื่งการ บรรยายเกี่ยวกับตัวเองและตำแหน่งงาน ความยาวประมาณ 2-3 หน้า ในขณะที่ Resume เป็นการเขียนประวัติส่วนตัวโดยย่อ ไม่เน้นความละเอียดนัก ไม่ค่อยมีความเป็นทางการ เน้นสไตล์ในแบบของตัวเอง เขียนเกี่ยวกับตัวเองที่เกี่ยวกับตำแหน่งงานมากที่สุด ความยาวประมาณ 1 หน้า แม้ทั้งสองจะเป็นประวัติส่วนตัวทั้งคู่ แต่ใช้แตกต่างกัน ดังนั้นหากจะยื่นประวัติส่วนตัว ควรดูว่าบริษัทหรือสถาบันการศึกษานั้นต้องการอะไรจากคุณ CV หรือ Resume
บทความแนะนำ