คนรุ่น Gen Z

สำหรับนักบริหารยุคใหม่ ที่ต้องทำความเข้าใจกับเหล่าหนุ่มสาว Gen Z คนรุ่นใหม่มาแรง ประจำปี 2021 เมื่อเวลาผ่านไป คนเราก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน จะให้ยึดถือตามหลักเกณฑ์เดิม ๆ ก็คงจะไม่ได้แล้ว ยิ่งคนที่อายุมากกว่าเยอะ ๆ ต้องมาทำงานกับคนที่อายุน้อยกว่า ห่างจากตัวเองหลายปี ทำให้บางครั้งเกิดความไม่เข้าใจกัน เพราะมีแนวคิดและมุมมองที่แตกต่างกัน

ดังนั้น สิ่งที่เหล่านักบริหารต้องทำก็คือ การทำความเข้าใจกับมนุษย์ Gen Z มนุษย์สายพันธุ์ใหม่ ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในสังคม และกำลังจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท การปรับวัฒนธรรมของบริษัทจึงเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้คนทำงานกับบริษัทยาว ๆ เช่นกัน

 

มนุษย์ Gen Z คืออะไร

มนุษย์ Gen Z คืออะไร

คน Gen Z คือ คนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ.2538 – 2552 เป็นกลุ่มคนที่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปตามลำดับ อยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความทันสมัย ทำให้คน Gen Z รับรู้ข่าวสารต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และยังมีความสามารถในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย มีการอัพเดตออนไลน์อยู่ตลอดเวลา มีลักษณะการทำงานแบบ Multitasking มีความมั่นใจในตัวเองสูง มีความคิดเป็นของตัวเอง สามารถทำงานได้หลากหลายแบบ

เทรนด์การทำงานของคน Gen Z

การทำงานที่ยืดหยุ่น

การทำงานที่ยืดหยุ่น

ตอนนี้สังคมให้ความสนใจระหว่าง work life balance กันมากยิ่งขึ้น สมัยก่อน คนส่วนใหญ่มักเสียเวลาไปกับการทำงาน ชีวิตเอาแต่ทำงาน รักแต่องค์กร โดยลืมไปแล้วว่าเราต้องรักตัวเองด้วยเช่นกัน ทำให้เทรนด์ การลดชั่วโมงการทำงาน กำลังมาแรง อย่างเช่น จากที่ต้องทำงานทั้งหมด 5 วัน พัก 2 วัน ก็ลดเป็น ทำงาน 4 วัน พัก 3 วัน เพื่อที่พนักงานจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และกลับมาทำงานได้อย่างเต็มพลัง ว่ากันว่า วันหยุดแค่ 2 วัน ไม่เพียงพอให้เราได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ทำให้เกิดการเหนื่อยล้าสะสมและต้องการลาออกจากงานมากยิ่งขึ้น

สามารถแสดงความสามารถได้อย่างเต็มที่

ประชุมทีม

คนสมัยก่อนเชื่อว่า อย่าเก่งจนเกินตัว จะเป็นภัยให้กับตัวเอง ทำให้คนไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นใหม่ ๆ เอาแต่ตามคนที่เคยอยู่มาก่อน เพราะเชื่อว่ามีประสบการณ์มากกว่า นั่นก็ถูกอยู่ส่วนหนึ่ง แต่การที่คนสมัยใหม่เข้ามา ก็ย่อมมีความคิดใหม่ ๆ ที่ปรับให้ทันยุคทันสมัยเช่นกัน หากเราต้องไปทำงานในที่ ๆ เน้นคนเอาอกเอาใจ ประจบประแจงเก่ง แต่ไม่สนใจว่าผลงานจะดีหรือไม่ ก็ทำให้เราไม่สามารถพัฒนาตัวเองได้ในอนาคต อยู่ไปก็เปลืองเวลา ทำให้เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เหล่าคนรุ่น Gen Z ต้องการออกจากงาน เพราะวัฒนธรรมองค์กรแบบนี้

เทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญ

เทคโนโลยการทำงาน

อย่างที่ได้เกริ่นไปในข้างต้น คน Gen Z ได้เกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยี ที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น คน Gen Z จึงมีความผูกพันกับเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังช่วยให้การทำงานง่ายขึ้นอีกด้วย ถ้าบริษัทไหนสามารถพัฒนาองค์กรให้ใช้ระบบออนไลน์มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ไหน ก็สามารถติดต่อกับบริษัทได้อย่างง่ายดาย แบบนั้นก็จะยิ่งถูกใจคน Gen Z และยังทำให้บริษัทมีการพัฒนาที่ดีและต่อเนื่อง และยังช่วยประหยัดทรัพยากรบางอย่างได้ เช่น เปลี่ยนจากการปริ้นงานออกมา เป็นการส่งอีเมล์ไปให้แทน สามารถเก็บอ่านได้ โดยที่ไม่ต้องเปลื้องกระดาษ ช่วยทำให้โลกไม่ร้อนขึ้นจากการตัดต้นไม้

Workshop เพิ่มทักษะและความรู้

Workshop เพิ่มความรู้

ด้วยความที่คน Gen Z เป็นคนที่สามารถอัพเดตสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ตลอดเวลา มีการรับรู้ข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว และยังมีสิ่งต่าง ๆ ที่น่าสนใจมากมาย ทำให้คน Gen Z สนใจสิ่งรอบข้างมากมาย แม้บางอย่างจะไม่มีความสัมพันธ์กันก็ตาม หากมีการ Workshop เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ชาว Gen Z จะถูกใจสิ่งนี้เป็นอย่างมาก

เพราะว่าได้ไปเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา อีกทั้งทักษะที่ได้ไปเรียนรู้นั้น อาจนำมาทำให้เกิดประโยชน์กับบริษัทได้มากขึ้นอีกด้วย เช่น บางคนทำงานเกี่ยวกับงานเขียน แต่สนใจในเรื่องการทำภาพด้วย เมื่อไปเรียนเพิ่มเติม ก็จะทำให้สามารถได้ทักษะใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น ช่วยให้องค์กรประหยัดทรัพยากรและประหยัดเวลามากขึ้น

Remote working

ประชุมออนไลน์

Remote working เป็นแนวคิดของพนักงานแบบใหม่ ที่การทำงานไม่ได้จำกัดให้อยู่แต่ในออฟฟิศอีกต่อไป ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถทำงานได้ทุกที่ เพียงแค่ผลงานและคุณภาพของงานต้องตรงตามเป้าหมายที่บริษัทกำหนดไว้ บางคนอาจจะรู้สึกเบื่อที่ไม่ว่าจะทำงานอะไร ก็ต้องมาทำงานที่บริษัท แม้ว่าเราจะมีคอมพิวเตอร์เป็นของตัวเองอยู่แล้ว สามารถทำงานได้แล้ว

แต่ด้วยข้อกำหนดของบริษัท ทำให้ต้องไปทำงานที่ออฟฟิศเท่านั้น ทำให้คน Gen Z รู้สึกเบื่อกับกฎเกณฑ์ข้อนี้ และต้องการที่จะเปลี่ยนมัน อย่างเช่นเทรนด์ที่กำลังมาแรงในตอนนี้ “Work from home” ที่สามารถทำงานที่บ้านได้ ปรับให้เข้ากับสถานการณ์โควิด-19 ได้เป็นอย่างดี

 

การทำงานของคน Gen Z

 

สรุป

บริษัทสมัยนี้ หากอยากได้เด็กรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน โดยเฉพาะเด็ก Gen Z ที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บริษัทต้องมีการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรหลาย ๆ อย่าง เพื่อให้เข้ากับเด็กสมัยนี้ และการปรับองค์กร ก็ยังทำให้องค์กรมีการพัฒนาก้าวไปข้างหน้าอีกด้วย ได้แก่ การปรับความยืดหยุ่นของการทำงาน เด็กรุ่นใหม่สามารถแสดงความสามารถได้เต็มที่ ใช้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วยในการทำงาน ให้มีการเสริมสร้างความรู้ด้วยการ Workshop และมีการปรับระบบการทำงานแบบ Remote Working ช่วยให้สามารถทำงานได้ทุกที่ หากบริษัทไหนทำได้ครบทุกข้อ JobsChiangrai ต้องขอปรบมือให้เลย

 

บทความแนะนำ

Author Image

Sunny

Happy Work Happy Life