อยากลดน้ำหนัก อยากเพิ่มกล้ามเนื้อ แต่ไม่อยากอ้วน ต้องถามผู้รู้อย่าง เทรนเนอร์ฟิตเนส ผู้ที่จะทำให้ฝันของคุณเป็นจริง อาชีพสุดฟิต ที่ไม่จำเป็นต้องมีกล้ามใหญ่หรือซิกแพค หากคุณกำลังคิดว่า อาชีพนี้เป็นเพียงการสอนออกกำลังกายเท่านั้น คุณคิดผิดแล้ว เพราะอาชีพนี้ ต้องใช้ความรู้และความสามารถเฉพาะทางเช่นกัน ถ้าหากใครที่ชอบเรื่องการออกกำลังกายและการรักษาสุขภาพแล้วล่ะก็ JobsChiangrai คอนเฟิร์มเลยว่า ต้องอยากทำอาชีพนี้อย่างแน่นอน
รู้จักอาชีพ ‘เทรนเนอร์ฟิตเนส’
เทรนเนอร์ส่วนตัว หรือ Personal trainer มักเรียกกันง่ายๆ ว่า ‘เทรนเนอร์ฟิตเนส’ เพราะมักทำงานอยู่ในฟิตเนสหรือสถานที่ในการออกกำลังกาย เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการออกกำลังกาย ในบางครั้งที่เราไปเล่นเครื่องเล่นบางอย่าง แต่ไม่รู้วิธีการเล่นหรือไม่สามารถเล่นได้อย่างถูกต้อง ก็จะมีเทรนเนอร์คอยให้การช่วยเหลือ เพื่อให้สามารถออกกำลังกายในส่วนต่างๆ ได้อย่างถูกวิธี
บางคนที่พยายามลดหรือเพิ่มน้ำหนักมานาน แต่ทำอย่างไร ก็ไม่ได้รูปร่างตามที่หวังไว้เสียที เทรนเนอร์ก็จะคอยให้คำแนะนำ คำปรึกษาว่า ต้องทำอย่างไรบ้าง ยิ่งบางคนที่เคยได้รับบาดเจ็บมา อาจทำให้ร่างกายบางส่วนไม่สามารถทำงานหนักได้เหมือนเคย จึงต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ โดยเทรนเนอร์จะทำแผนแต่ละอย่าง เพื่อให้เหมาะสมกับคนๆ นั้น ไม่ใช่แค่เพื่อรูปร่างที่ดูดีเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการป้องกันความเจ็บป่วยอีกด้วย
ลักษณะงานเทรนเนอร์
- สอบถามประวัติของลูกค้าเกี่ยวกับโรคประจำตัว อาการบาดเจ็บทางร่างกาย และเป้าหมายในการออกกำลังกาย เช่น ต้องการลดน้ำหนัก ต้องการเพิ่มน้ำหนัก ต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อ เป็นต้น
- ตรวจวัดมวลร่างกาย เช่น น้ำหนัก มวลกล้ามเนื้อ มวลไขมัน BMI เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย ระดับไขมันช่องท้อง อัตราเมตาบอลิคพื้นฐาน เป็นต้น
- ประมวลผล ออกแบบ และวางแผนในการดูแลสุขภาพให้กับลูกค้า โดยลูกค้าแต่ละคนจะมีแผนที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย สุขภาพ และเป้าหมายในการออกกำลังของคนนั้นๆ
- ให้คำแนะนำหรือคำปรึกษากับลูกค้าขณะออกกำลังกาย ทำแบบไหนถึงจะดี ทำแบบไหนถึงจะได้ผล ป้องกันไม่ให้ลูกค้าได้รับบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย
- หมั่นตรวจเช็คร่างกายของลูกค้า ในช่วงเวลาที่ตั้งไว้ตามเป้าหมาย เพื่อดูว่าได้ผลมากน้อยแค่ไหน ต้องการปรับอะไรเพิ่มเติม ช่วยจนกว่าลูกค้าจะบรรลุเป้าหมาย
คุณสมบัติของเทรนเนอร์
- เป็นคนที่มีความสนใจและใส่ใจสุขภาพ ทั้งเรื่องอาหารการกินและเรื่องการออกกำลังกาย
- มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องการออกกำลังกายเป็นพิเศษ การใช้อุปกรณ์ในการออกกำลังกาย รวมไปถึงหลักโภชนาการที่จำเป็น เข้าใจกลไกในการทำงานของร่างกาย
- สามารถปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้ง่าย เพราะต้องเจอกับผู้คนมากหน้าหลายตา
- มักจะเจอกับความท้าทายใหม่ๆ อยู่เสมอ เช่น ลูกค้าบางคนได้รับบาดเจ็บที่หลัง ทำให้ไม่สามารถออกกำลังกายส่วนนั้นได้มาก เทรนเนอร์ต้องคิดว่า จะทำอย่างไรให้ลูกค้าไม่ได้รับบาดเจ็บและยังสามารถออกกำลังกายส่วนนั้นได้อยู่
- มีวินัยทั้งกับตัวเองและกับคนที่เรากำลังดูแลอยู่ เพราะการออกกำลังกายนั้น ต้องใช้วินัยเป็นอย่างมาก จะท้อแท้ง่ายๆ ไม่ได้ รวมไปถึงการควบคุมอาหาร รับประทานอาหารสุขภาพ เพื่อดูแลรูปร่างและสุขภาพของเรา
- รักในงานบริการ มีความอดทนสูง เพราะไม่ใช่ว่าลูกค้าทุกคนจะสามารถทำตามที่เราบอกได้อย่างเป๊ะ ดังนั้น จึงต้องมีความอดทนสูงและพยายามปรับให้เข้ากับตัวลูกค้าให้ได้
- มีทักษะในการโน้มน้าวจิตใจ ทักษะการขาย และจะดีมาก หากมีทักษะทางด้านภาษาเพิ่มเติมเข้ามา เพราะจะทำวงลูกค้ากว้างมากขึ้นกว่าเดิม
อยากเป็นเทรนเนอร์ ต้องเรียนอะไรบ้าง
จบการศึกษาระดับมัธยมปลายมาจากสายวิทย์ – คณิต เพราะต้องมีความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มากเป็นพิเศษ จากนั้น ก็ไปเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยทางด้านสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ โดยมีสถาบันที่เปิดสอน ดังต่อไปนี้
- คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- คณะพลศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
- คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยบูรพา
- คณะสหเวชศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (วิทยาเขตกำแพงแสน)
- คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
- คณะวิทยาศาสตร์ประยุกต์และวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
- สำนักวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
- วิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย มหาวิทยาลัยมหิดล
เงินเดือนเทรนเนอร์
สำหรับสายงานเทรนเนอร์ เราสามารถเลือกที่จะทำกับฟิตเนส สถานที่ออกกำลังกาย หรือ จะออกมาทำเป็น เทรนเนอร์ฟรีแลนซ์ ก็ได้เช่นกัน โดยมีฐานรายได้ตามนี้
- เทรนเนอร์ฟิตเนส : เงินเดือนอยู่ที่ประมาณ 10,000 – 15,000 บาท ยังไม่รวมค่าคอมมิชชั่น หรือ ใครที่มีสอนตามคลาส ก็จะได้เงินแบบรายชั่วโมงด้วย โดยรายได้เฉลี่ยรวม ตกอยู่ที่เดือนละ 50,000 บาทขึ้นไป
- เทรนเนอร์ฟรีแลนซ์ : สามารถรับเป็นงานประจำหรืองานเสริมก็ได้ รายได้ขึ้นอยู่กับผู้ว่าจ้าง โดยจะมีค่าสอนตั้งแต่ 500 – 1,000 บาทขึ้นไป
สรุป
ใครเป็นสายรักสุขภาพ ต้องอยากทำอาชีพ เทรนเนอร์ฟิตเนส อย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะได้ดูแลสุขภาพของตัวเองแล้ว ยังได้ดูแลสุขภาพของผู้อื่นอีกด้วย โดยผู้ที่จะเป็นเทรนเนอร์ได้นั้น ต้องมีความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพมากเป็นพิเศษ ไม่ใช่แค่เรื่องออกกำลังกาย แต่ยังรวมถึงกลไกทางร่างกายและหลักโภชนาการต่างๆ เพื่อที่จะทำให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ลูกค้าแต่ละคน ก็มีความแตกต่างกันออกไป ต้องใช้ความสามารถของเราในการวางแผนการออกกำลังกายให้กับลูกค้าอย่างเหมาะสมด้วย
ขอบคุณภาพบางส่วนจาก Fitness First